เมื่อท่านทั้งหลายก้าวมาถึงจุดนี้แล้ว ถ้าหากว่าสามารถยอมรับกฎของกรรมอย่างแท้จริง ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ ปล่อยวางภาระทั้งปวงลงได้ รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่วแล้ว แม้แต่พระนิพพานก็ไม่ได้เกาะ ท่านทั้งหลายก็สามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้
เราจะเห็นว่าในเรื่องการศึกษานั้น องค์สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา สอนไว้ครบถ้วนทั้งทางโลกทางธรรม สอนไว้ทั้งปริยัติและปฏิบัติ เมื่อท่านทั้งหลายเรียนรู้ในปริยัติธรรม สามารถนำมาปฏิบัติจนเกิดผล แล้วเสวยผลแห่งการปฏิบัติของท่านได้ ก็เรียกว่าเข้าสู่ปฏิเวธธรรมได้อย่างแท้จริง
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราจึงเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การเคารพ โดยไม่ต้องบีบบังคับให้ใครเคารพ เป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การบูชา โดยที่ไม่ต้องบังคับให้ใครบูชา ท่านทั้งหลายจะเกิดอาการยึดมั่นในคุณพระศรีรัตนตรัย อย่างชนิดที่เรียกว่า ตีก็ไม่ไป ไล่ก็ไม่หนี สามารถสละชีวิตเพื่อพระรัตนตรัยได้ สามารถสละชีวิตเพื่อปกป้องพระธรรมได้ สามารถสละชีวิตเพื่อปกป้องสถาบันสงฆ์ได้
ถ้าท่านทั้งหลายกระทำกำลังใจมาถึงระดับนี้ได้ ก็ได้ชื่อว่าท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่ศึกษาในพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนปรากฏผลแก่ตนอย่างแท้จริง
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2022 เมื่อ 02:29
|