๒๕ อยากฉลาดต้องโง่เป็น
ผู้มีปัญญา
จักไปที่ใด ควรเอาโง่ไปด้วยเสียบ้าง
อย่ามีมานะจองหอง
ให้กระทำตัวเป็นดั่งร่ม
ควรจะรู้ว่าเมื่อใด ควรจะหุบหรือกาง
ถ้าถือตัวว่าดี ฉลาดรู้และบ่ข้อง(ไม่ยุ่งเกี่ยว) บ่ถามใคร
จะทำอันใด บ่มองบ่ดู ใครบ้างอย่างนั้น
เราจักเป็นผู้บ่รู้ จนวันตาย
ไปที่ไหน ให้เอาโง่ไปด้วยเสียบ้าง
จะดีเมื่อภายหลัง
๒๖ คบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล
คนเราถ้าคบกับคนโง่คนเซ่อ ก็โง่ก็เซ่อไปตามกัน
เหมือนใบตองห่อปลาร้าปลาเน่า มันเหม็นสาบคาวไปตามกัน
ถ้าคบกับคนดีมีปัญญา ก็เป็นคนดีมีปัญญาไปตามกัน
เหมือนใบตองห่อของหอม มันก็หอมไปตามกัน
เหตุนั้น เราบ่ควรคบกับคนโง่คนเซ่อ คบแต่ผู้มีปัญญา
เพราะการคบกับคนเซ่อนั้น มันจะพาไปสู่ทางผิด
เป็นเหตุให้ฉิบหาย ในชั่วนี้ชั่วหน้า
ถ้าคบผู้มีปัญญา จะพาไปสู่ทางดีนั้นแล
๒๗ ชีวิตนั้นมีความตายเป็นของเที่ยง
เราบ่ควร
จะร้องไห้หาคนที่ตายไปแล้ว จนตาพุตาพอง
เพราะเราจะต้องตายเหมือนกัน บ่วันหนึ่งก็ยามหนึ่ง(ไม่วันใดก็วันหนึ่ง)
คนตายแล้ว
แม้นจักร้องไห้ หาสักเท่าใด
มันก็บ่คืนมา
คนเกิดมาแล้ว ก็มีอันจะตายไป เที่ยงแท้เป็นมั่น
อุปมาเป็นดั่งดวงตะวัน
ออกมาแล้ว ก็มีอันจักตกไป เป็นธรรมดา
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2010 เมื่อ 02:46
|