ดูแบบคำตอบเดียว
  #13  
เก่า 17-03-2022, 21:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,949 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นความจริงเพียงมุมเดียว และอาจจะเป็นการนำเสนอเพราะโดนชี้แนะชักนำด้วย เราก็หยุดใจของเราเอาไว้ อย่าเพิ่งไปยินดียินร้ายจนกระทั่งก่อให้เกิดมโนกรรม วจีกรรม หรือถ้าหากว่าพิมพ์สิ่งต่าง ๆ ในลักษณะของคอมเมนท์ ก็จะกลายเป็นกายกรรมไปด้วย

เมื่อเรามีอานาปานสติ สร้างกำลังใจของเราให้เข้มแข็ง เราจะรู้จักระงับยับยั้ง อย่างในปัจจุบันนี้สินค้าต่าง ๆ เสนอขายอย่างชนิดที่เราคิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าทำ ถ้าท่านไปที่ทองผาภูมิ อยากจะได้รถมอเตอร์ไซค์ป้ายแดงสักคันหนึ่ง ไม่ต้องมีเงินเลยก็ได้ มีแค่บัตรประชาชนใบเดียว เข้าไปถึง ทำสัญญาซื้อขายมอเตอร์ไซค์ ๑ คัน โดยที่เขาแถมพัดลม ๑ ตัว ร่ม ๑ คัน และให้เงินไปเติมน้ำมันอีก ๕๐๐ บาทด้วย มีกติกาว่าเอาไปขับก่อน ถ้าภายใน ๓ เดือน ถ้าไม่พอใจให้เอามาคืนได้

เมื่อท่านทั้งหลายนำรถออกมาขับ เป็นที่ปรากฏต่อสายตาพรรคพวกเพื่อนฝูง ก็จะมีคน "เฮ้ย...ออกรถใหม่นี่หว่า" "อ้าว...ป้ายแดงด้วย สวยดี ยี่ห้ออะไรวะ ? ดูน่าขับจังเลย" เมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้น รถคันนั้นจากยานพาหนะที่ควรเป็น ก็กลายเป็นหน้าเป็นตาของเราไป ตั้งแต่เขาทำโครงการมา ยังไม่มีใครเอารถไปคืนเลย ครบ ๓ เดือนเมื่อไรก็ไปจ่ายเงินดาวน์แต่โดยดี แล้วก็ต้องออกแรงผ่อนเขาไปอีก ๔๘ เดือน ก็คือ ๔ ปี นั่นเพราะว่าเราขาดสติ ลืมนึกไปว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี

โดยเฉพาะการโฆษณาออกสื่อต่าง ๆ เขาศึกษาจิตวิทยามนุษย์มาแล้ว เห็น "อีโก้" หรืออัตตาในตัวของเรา เขาถึงกล้าที่จะทำโปรโมชั่นต่าง ๆ ออกมา เพราะทำให้เราเห็นว่าสามารถที่จะหามาได้ในราคาที่ไม่แพง แต่ความจริงแล้วแพงมาก

กระผม/อาตมภาพไปถามราคารถยนต์เงินผ่อน กับรถที่ซื้อโดยเงินสดเมื่อประมาณ ๒๐ ปีที่แล้ว เมื่อบวกกับเงินดาวน์และจำนวนเงินผ่อน ๖๐ เดือน ปรากฏว่าเราต้องจ่ายเงินมากกว่าซื้อเงินสดประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ บาท เพราะเขาถือว่าเป็นดอกเบี้ย เท่ากับเขาให้เรากู้เงิน โดยที่เราต้องไปผ่อนใช้คืนเขาทีหลัง ซึ่งปกติแล้ว ถ้าหากว่าเราผ่อนครบ ๖๐ เดือน รถคันนั้นก็เหลือแต่ซากแล้ว ต้องซ่อมกันแล้วซ่อมกันอีก ถึงเวลานั้นเราก็ต้องไปดาวน์คันใหม่ แล้วก็เป็นหนี้เขาต่อไป เพราะว่าขาดสตินั่นเอง

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าท่านมีการปฏิบัติในอานาปานสติจริง ๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นกับเรา เพราะว่าเราสามารถที่จะระงับยับยั้งใจ รู้จักพินิจพิจารณา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-03-2022 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา