ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 15-03-2022, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,949 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คำว่าอานาปานสติ แปลเป็นไทยง่าย ๆ ว่าสติที่ไปในลมหายใจเข้าออก อานะ, อาปานะ รวมกันแล้วเป็น อานาปานะ ก็คือหายใจเข้าและออก ถ้าเราสามารถเอาสติไว้กับลมหายใจเข้าออกในปัจจุบัน ไม่คิดฟุ้งซ่านไปไหน เราก็จะเป็นผู้ที่มีความทุกข์น้อย

กระผม/อาตมภาพก็เหมือนกับท่านทั้งหลาย ก่อนหน้านี้ก็เป็นคนขี้กลัว ขี้กังวล หวาดระแวง เครียดง่าย แต่หลังจากที่มาปฏิบัติธรรมไปจนถึงระดับหนึ่งด้วยความพากเพียรไม่ท้อถอยแล้ว ปัจจุบันนี้ความกลัวไม่ทราบว่าหายไปไหน ยิ่งถ้าหากว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามธรรมตามวินัยแล้ว ถ้าใครทำผิดอยู่ตรงหน้า พร้อมที่จะพุ่งชนโดยไม่กลัวใครเลย ความขี้กังวล ถึงเวลาจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็คิดไป ๓ วัน ๓ คืนนอนไม่หลับ ตอนนี้มีอยู่อย่างเดียวก็คือหลับแล้วไม่ค่อยจะตื่น..!

เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ที่เปลี่ยนแปลงขึ้นมาได้ก็เพราะการปฏิบัติธรรม ซึ่งการปฏิบัติธรรมนั้น พวกเราทุกคนก็จะนึกถึงภาพการนั่งสมาธิ การภาวนา พุทโธ..พุทโธ หรือว่า พองหนอ..ยุบหนอ แต่โดยหลัก ๆ แล้วก็คือ การกำหนดสติอยู่กับลมหายใจเข้าออกนั่นเอง

พระพุทธเจ้าของเราให้ขั้นตอนเอาไว้เป็นลำดับไปตั้งแต่ต้น ก็คือสัมมาทิฐิ เราจะต้องเห็นว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นของดี ควรที่จะปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในอนาคต และถ้าหากว่าบุญพาวาสนาช่วย เข้าถึงประโยชน์สูงสุดคือพระนิพพานได้ สามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์ได้ก็ยิ่งดี

ข้อต่อไปคือ สัมมาสังกัปปะ ต้องเป็นผู้มีดำริ คือความคิดที่ถูกต้อง อย่างเช่นว่า เราคิดจะออกจากกาม คิดอยากจะพ้นจากความทุกข์ เราจึงต้องตั้งหน้าตั้งตามาพากเพียรพยายามกระทำกัน

คราวนี้จากความคิดซึ่งเป็นเรื่องของใจ ก็จะออกมาเป็นกายกับวาจา ก็คือต้องตั้งหน้าตั้งตารักษาศีล ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายยังคงเที่ยวเตร่เฮฮา ยังกินเหล้าเมายา ต้องอาศัยแสงสีเสียงต่าง ๆ ในการกระตุ้นตนเองให้มีความสุข จนกระทั่งบางทีก็ก่อความทุกข์ให้อย่างถนัดใจ

อย่างเรื่องราวที่ท่านทั้งหลายได้ข่าวจากสื่อต่าง ๆ ทุกวันนี้ก็ยังวิพากษ์วิจารณ์ไม่จบ ว่าเรื่องของความสนุกชั่วคราว แต่ไปทำเอาคนตกน้ำตาย เดือดร้อนกันไปหมด จนป่านนี้เรื่องก็ยังไม่จบลง สาเหตุทั้งหลายเหล่านั้นเกิดจากการขาดศีล ไม่มีการควบคุมกายวาจาของตนให้อยู่ในกรอบของความดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2022 เมื่อ 05:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา