เราจะเห็นได้ว่าหลักความรักในพระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ต่างจากความรักในความเข้าใจของบุคคลทั่วไป เพราะว่าความรักของบุคคลทั่วไปนั้น ส่วนใหญ่แล้วมีความเห็นแก่ตัวแฝงอยู่ ก็คือเพราะรัก จึงอยากมี อยากได้ เป็นทั้งความเห็นแก่ตัวและความโลภ และโดยเฉพาะความรักของหนุ่มสาวที่ว่านั้น เป็นสัญชาตญาณแห่งความใคร่ ต้องการที่จะสืบเผ่าพันธุ์ตามสัญชาตญาณเท่านั้น ไม่ใช่ความรัก
ดังนั้น...ถ้าหากว่าพูดถึงความรักแล้ว ผู้หญิงจะมีความรักที่มั่นคงกว่า เนื่องเพราะว่าผู้ชายนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นตัวแพร่กระจายพันธุ์ตามหน้าที่ ต่อให้ไม่มีความรักก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่สำหรับผู้หญิงแล้ว ถ้าไม่รัก บางคนนี่ไม่ให้ผู้ชายเข้าใกล้เลย จนกว่าผู้ชายจะใช้สารพัดวิธีหลอกล่อจนเขาเชื่อว่าตัวเองรัก ตรงจุดนี้..ความรักของวันวาเลนไทน์จึงเป็นความรักที่เป็นความใคร่ เป็นสัญชาตญาณในการสืบพืชสืบพันธุ์ของสัตว์โลกเท่านั้น
แต่ว่าความรักในหลักธรรมของทางพระพุทธศาสนาก้าวข้ามตรงจุดนั้นไปแล้ว เพราะว่าเป็นความรักด้วยเมตตา คือรักเขาเหมือนกับตัวเรา เราปรารถนาความสุข เกลียดความทุกข์อย่างไร คนอื่นก็ปรารถนาความสุข เกลียดความทุกข์เช่นนั้น
เพียงแต่ว่าในบรรดาผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายนั้น เมื่อปฏิบัติธรรมไปในระยะหนึ่ง ก็จะมีการทดสอบที่บางทีเราก็ไม่รู้ตัวว่าเป็นข้อสอบ ก็คือมีเพศตรงข้ามเข้ามาหา บางคนก็มาในลักษณะที่เห็นว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกัน ต้องการคำปรึกษาหารือว่าแนวทางการปฏิบัติธรรมนั้นถูกหรือผิดอย่างไร แต่ว่าคนเราก็มักจะเข้าข้างตนเอง เห็นเขาเข้ามาใกล้ก็ไปฟันธงว่าเขาต้องรักต้องชอบเราแน่ ถ้ารู้จักระมัดระวังตัว มีสติ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าขาดความระมัดระวังตัวเมื่อไร ก็จะกลายเป็นความใคร่เมื่อนั้น
แล้วกระแสกรรมก็จะดึงเอาความผูกพันเดิม ๆ เข้ามา บางทีก็ไปจับคู่กันเข้า จนกระทั่งหลงลืมว่าตนเองมาปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร แล้วท้ายที่สุดก็ลืม มัวแต่ไปสร้างโลก สร้างครอบครัวของตนเองแทน กลายเป็นสร้างสิ่งที่ยึดติด ทำให้หลุดพ้นได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก
เนื่องเพราะว่าจาก "ตัวกูของกู" ก็เพิ่มเป็นผัวกู เมียกู ลูกกู ทรัพย์สมบัติของกู ครอบครัวของกู สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีแต่จะลากถ่วงให้เราเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบ ถ้าไม่ได้บำเพ็ญบารมีมาชนิดเลิศภพจบแดน โอกาสที่จะหลุดพ้นจากวัฏสงสารนี้ก็ยากเป็นอย่างยิ่ง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-02-2022 เมื่อ 18:29
|