ตรงนี้ถ้าจะกล่าวไปแล้ว เราต้องไปพิจารณากฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๑๗ พุทธศักราช ๒๕๓๖ เกี่ยวกับการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์ ซึ่งมีระบุในหมวดที่ ๓ หน้าที่ของพระอุปัชฌาย์ ข้อที่ ๑๔ ระบุไว้ว่า พระอุปัชฌาย์ต้องงดเว้นการให้อุปัชฌาย์อุปสมบทต่อบุคคลต้องห้ามเหล่านี้ คือ
๑. คนทำความผิดหลบหนีอาญาแผ่นดิน
๒. คนหลบหนีราชการ
๓. คนต้องหาในคดีอาญา
๔. คนเคยถูกตัดสินจำคุกในฐานเป็นผู้ร้ายสำคัญ
๕. คนต้องห้ามอุปสมบทเด็ดขาดทางพระพุทธศาสนา
๖. คนมีโรคติดต่อเป็นที่น่ารังเกียจ เช่น วัณโรคในระยะอันตราย อย่างปัจจุบันนี้ก็น่าจะประมาณว่าติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙
๗. คนมีอวัยวะพิการ จนไม่สามารถที่จะปฏิบัติกิจทางพระพุทธศาสนาได้
ทั้ง ๗ ข้อนี้ในส่วนของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก จะเข้าเกณฑ์อยู่สองข้อ ก็คือ ข้อ ๑ คนทำความผิดหลบหนีอาญาแผ่นดิน ข้อที่ ๓ คนต้องหาในคดีอาญา
คนทำความผิดหลบหนีอาญาแผ่นดินในสมัยก่อนนั้น ถ้ามาบวชเขาถือว่ายกเลิกความผิดทุกอย่างไปโดยปริยาย เราจะเห็นว่าสมัยก่อนมีบรรดาเสือร้าย ๆ มาบวช จนกระทั่งกลายเป็นหลวงปู่หลวงพ่อชื่อดังหลายรูปด้วยกัน ยกตัวอย่างชัด ๆ คือ เสือบุญ เสือบุญบวชจนกระทั่งได้เป็นรองสมเด็จพระราชาคณะหิรัญบัตร ไปสืบหาเอาเองละกันว่าเสือบุญอยู่วัดไหน และเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะในสมณศักดิ์ว่าอะไร
คนที่สองก็คือ เสือหรุ่น คนจะรู้จักเสือหรุ่น ๙ ยอด เจ้าของรอยสัก ๙ ยอด ซึ่งเหนียวสะเด็ดยาด ลูกศิษย์เป็นพันเป็นหมื่น
นี่คือผู้ต้องหาหลบหนีคดีอาญา แต่พอบวชมาแล้วทางราชการถือว่าให้อภัยโทษ ในลักษณะของผู้ร้ายกลับใจ โดยเอาตัวอย่างจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบวชให้องคุลิมาล ซึ่งองคุลิมาลนั้นฆ่าคนมาเกินพัน เป็นผู้ร้ายสำคัญหลบหนีคดีอาญา แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสถามแก่พระเจ้าปเสนทิโกศลว่า "ถ้าหากองคุลิมาลเลิกจากการฆ่าคน หันมานุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ ประพฤติปฏิบัติตามแบบของพระภิกษุสงฆ์ มีพระธรรมวินัยนี้เป็นที่ยึดถือ มหาบพิตรจะมีความเห็นว่าอย่างไร ?"
พระเจ้าปเสนทิโกศลทูลตอบว่า "ถ้าทำได้อย่างนั้น โยมก็ขออนุโมทนา และจะอุปถัมภ์ค้ำชูด้วยปัจจัยสี่ตามสมควรแก่สมณสารูป" เป็นต้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-01-2022 เมื่อ 16:44
|