ส่วนของวิปัสสนานั้น เราพิจารณาได้ แต่ถ้ากำลังสมาธิไม่พอ ก็ตัดกิเลสไม่ได้ เหมือนกับคนมองเห็นเงาในน้ำ เอื้อมมือลงไปเมื่อไร เงานั้นก็แตกกระจายหมด ไม่สามารถที่จะหยิบจะจับขึ้นมาได้
การปฏิบัติในบ้านเราบางสาย เน้นเรื่องวิปัสสนาภาวนาอย่างเดียว ทำให้ตัวเองต้องไปทุกข์ยากลำบาก เพราะว่าถึงเวลา รัก โลภ โกรธ หลง กินขึ้นมา วิปัสสนาก็รับมือไม่ไหว ดังนั้น...ถ้ามีโอกาส เราก็แอบเข้าสมถะของเรา อย่าทำตัวเป็นคนโง่ ให้ถอดเครื่องป้องกันทั้งหมดแล้วขึ้นไปต่อยกับแชมเปี้ยนโลกเฮฟวี่เวท ก็มีสิทธิ์ตายคาเวทีได้..! ต้องพกเครื่องป้องกันขึ้นไปให้เต็มที่ อาวุธมีเท่าไรขนไปให้หมด ถ้าลักษณะอย่างนั้น ถึงจะมีโอกาสชนะได้
ดังนั้น...ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติมาตลอด แล้วหนักใจว่าเราไม่ได้พิจารณาวิปัสสนาญาณ เราจะมีโอกาสบรรลุมรรคผลไหม ? ขอยืนยันว่ามี แต่ถ้าเผลอเมื่อไร โดนกิเลสตีก็หงายท้องเอาง่าย ๆ
ฝ่ายที่พิจารณาวิปัสสนาญาณอย่างเดียว จะหวังให้กำลังเพียงพอในการตัดกิเลสก็ยาก ควรที่จะเข้าสมาธิภาวนาอย่างเป็นทางการบ้าง จะเป็นเช้า ๑ รอบ กลางวัน ๑ รอบ เย็น ๑ รอบ ในระหว่างวัน แล้วเราค่อยพิจารณาของเราก็ตามใจ
วันนี้ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมที่ฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-01-2022 เมื่อ 15:32
|