กระผม/อาตมภาพเคยเฝ้าไข้คนป่วยหลายคน อาการมักจะกำเริบตอนกลางคืน ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเราไม่เข้าใจธรรมชาติตรงจุดนี้ ถึงเวลาก็อาจจะกลุ้ม อาจจะโกรธ อาจจะขัดใจไปเลยว่าทำไมป่วยแล้วก็ไม่รู้จักนอน ? ทำให้เราต้องถ่างตาคอยดูแลไปทั้งคืน ? ก็เพราะผลกระทบจากธรรมชาติตรงจุดนี้ที่เราเองไม่ค่อยจะเข้าใจ
ส่วนในด้านไสยศาสตร์นั้น ข้างขึ้นข้างแรมก็ดี หรือว่า วันเสาร์ วันอังคารก็ตาม มีผลมาก บรรดาหมอไสยศาสตร์ต่าง ๆ ก็มักจะอาศัยวาระทั้งหลายเหล่านี้ เสกของบ้าง ปล่อยของบ้าง เราต้องเข้าใจว่าหมอไสยศาสตร์นั้นศึกษาเรื่องไสยศาสตร์มา เป็นของร้อน ถึงเวลาต้องมีการปล่อยออกไปเป็นระยะ ไม่เช่นนั้นบางทีก็ "กินตัวเอง" คำว่า "กินตัวเอง" ในที่นี้ก็คือเกิดโทษกับตนเอง แต่คราวนี้พอปล่อยออกไปแล้วก็ไปเดือดร้อนคนอื่นแทน..!
โบราณถึงได้เตือนนักเตือนหนาว่ากลางค่ำกลางคืน ถ้าได้ยินเสียงแปลก ๆ อย่าไปขานรับ หรือว่าอย่าไปทัก บางทีก็เหมือนกับเสียงคนขว้างข้างฝา ดังปึงปังขึ้นมา บางทีก็มีเสียงกราว เหมือนใครโปรยกรวดโปรยทรายลงหลังคา เป็นต้น กระผม/อาตมภาพเองได้รับคำสอนไม่ให้ทักเวลาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เด็ก ๆ
อีกส่วนหนึ่งก็คือ สมัยก่อนผู้ใหญ่จะบอกอยู่เสมอว่าวันโกนวันพระ ต้องระวังให้ดี โดยเฉพาะช่วงกลางคืนหลังตะวันตกดินไปแล้ว เพราะว่าพระยายมจะปล่อยผี ซึ่งตรงจุดนี้ต้องบอกว่าโบราณรู้จริง แต่ความจริงแล้วพระยายมท่านไม่ได้ปล่อยผี เป็นเรื่องปกติของผีอยู่แล้วที่พอถึงเวลาวันศีล วันทาน ก็คือวันโกน วันพระ ก็หวังว่าญาติพี่น้องของตนจะทำบุญทำทานให้
เมื่อได้รับอนุญาตจากพระยายมราชก็กลับไปหาญาติพี่น้องตัวเอง เพื่อที่จะรอบุญ ถ้าหากว่าญาติพี่น้องทำบุญให้ โมทนาบุญได้ บางทีก็พ้นจากสภาพซึ่งรอการตัดสินจากพระยายมราชไปเลย ก็ไม่ต้องทำให้ท่านเหนื่อยยาก
แต่ส่วนใหญ่แล้ว เกิน ๙๐ เปอร์เซ็นต์ก็คือไปแล้วเสียเวลาเปล่า..! ญาติพี่น้องตนเองนอกจากไม่ทำบุญสุนทานแล้ว บางทีก็ยังละเมิดศีลกันเป็นปกติ ก็ต้องซมซานกลับไปหาพระยายมราชท่านอีก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-12-2021 เมื่อ 19:44
|