บริเวณกลดของครูบาธรรมชัยมีด้ายสายสิญจน์ขึงไว้รอบปริมณฑลป้องกันสัตว์ร้ายและหมู่มารไม่ให้เข้ามารบกวนการบำเพ็ญภาวนา
ช้างตกมันวิ่งปรี่เข้าถึงเส้นด้ายสีขาวบริสุทธิ์เหมือนใยแมงมุมในสายตาของมัน สิ่งแปลกประหลาดพลันอุบัติขึ้น ปรากฏว่าช้างคลุ้มคลั่งดุร้าย ปราศจากความกลัวเกรงในทุกสรรพสิ่ง เมื่อเจอด้ายสายสิญจน์ที่วงล้อมกลดเอาไว้กลับชะงักกึก มีทีท่าลังเลรี ๆ รอ ๆ ไม่กล้าก้าวข้ามด้ายสายสิญจน์ ทำหันรีหันขวางเหมือนตัดสินใจเด็ดขาดไม่ได้ งุ่นง่านขุ่นเคืองจนแผดเสียงแปร๋แปร๋นนานเป็นครู่ใหญ่
จากนั้นหันตัวเดินไปหักกิ่งไม้ต้นไม้และถอนหญ้ากินอยู่แถวกลดของครูบาธรรมชัยไม่ยอมไปไหน ท่าทางยังคลุ้มคลั่งไม่เสื่อมคลายแม้แต่นิดเดียว รอแค่ว่าครูบาธรรมชัยก้าวออกมาพ้นด้ายสายสิญจน์ที่วงไว้เมื่อไร เป็นไม่ยอมรอช้า ต้องวิ่งเข้าใส่เพื่อทำร้ายท่านทันที
ครูบาธรรมชัยเดินออกมานอกกลด และเดินจงกรมไปมาอยู่ในวงล้อมของสายสิญจน์เป็นปกติ ไม่หวาดกลัวช้างสารผู้โหดเหี้ยมดุร้ายที่ชายหูชายตามองท่านอยู่ไม่ว่างเว้น
เมื่อเดินพอเหมาะพอควรแล้วท่านก็นั่งขัดสมาธิเจริญกรรมฐานต่อที่หน้ากลดบ้าง อยู่ข้างในกลดบ้าง ช้างดุร้ายตกมันไม่ยอมไปไหน เฝ้าคุมเชิงท่านอยู่ตลอดเวลาทั้งกลางวันกลางคืน เดินป้วนเปี้ยนไปมาอยู่แต่แถวนั้น เที่ยวรื้อถอนทุกสรรพสิ่งจนป่าช้า "สันปูเลย" ราบเป็นหน้ากลอง สภาพรกชัฏที่น่าพรั่นพรึงกลายเป็นพื้นดินกว้างขวางโล่งแจ้งไปกว่าครึ่งค่อน ลดความน่าหวาดกลัวเรื่องผีดิบลงไปไม่น้อย
พวกชาวบ้านห่วงใยกังวลในความปลอดภัยของครูบาธรรมชัยมากกว่ากลัวผีกลัวช้าง เป็นทุกข์อยู่แต่ว่าช้างจะคลั่งถึงขีดสุด เผ่นโผนเข้ากระทืบกลดทำร้ายท่านถึงแก่ชีวิต แต่ชาวบ้านก็คร้ามเกรงอำนาจดุร้ายของช้าง ไม่กล้าทำสิ่งใดลงไปสักอย่างเดียว
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 07-02-2010 เมื่อ 20:20
|