ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 03-10-2021, 15:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,916 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าเป็นสายพองยุบ เรากำหนดแค่ว่า "รู้หนอ...รู้หนอ" อยู่ภายใน โดยที่ไม่ได้กำหนดในลักษณะที่กระทุ้งหรือกระแทกให้หลุดออกมา โดยกำหนด "รู้หนอ...รู้หนอ...รู้หนอ" อย่างรวดเร็วและรุนแรงแล้ว สมาธิก็จะลึกเข้าไปอีก จนกระทั่งกลายเป็นสว่างโพลงอยู่ตรงหน้าของเรา

ตอนนี้ถ้าดูอาการทางร่างกาย หูก็จะไม่ได้ยินเสียงภายนอก จิตใจสงบเยือกเย็นอยู่กับสมาธิภายใน ความสว่างไสวที่ปรากฏนั้น สว่างไสวเหมือนกับพระอาทิตย์ยามเที่ยง ไม่มีสิ่งหนึ่งประการใดที่สามารถจะมาปิดบังความสว่างนั้นได้

ถ้าหากว่ามาถึงตรงจุดนี้ นักปฏิบัติทั้งหลายต้องกำหนดเวลาไว้ ก็คือกำหนดว่าเราจะปฏิบัติในลักษณะอย่างนี้แค่ ๓๐ นาที แค่ ๑ ชั่วโมง หรือว่าแค่ ๒ ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นแล้วบางทีท่านก็จะอยู่ในสมาธิข้ามวันข้ามคืนไปเลย หลายวันหลายคืนก็มี

ถ้าสมาธิทรงตัวอยู่ในระดับนี้นั้น สภาพจิตของท่านจะสงบระงับจนถึงที่สุด เมื่อสงบระงับจนถึงที่สุด กำลังจะมีสูงมาก เมื่อกำลังสมาธิมีสูงมาก รัก โลภ โกรธ หลง โดนกดดับ หายไปจากใจชั่วคราว ในลักษณะของวิกขัมภนวิมุติ ก็คือการกดข่มเอาไว้ก็ดี ในลักษณะของตทังควิมุติ ก็คือสามารถที่จะกดเอาไว้ได้ด้วยองค์ของวิปัสสนานั้น ๆ ก็ตาม

บางท่านก็เข้าใจผิด คิดว่าเราน่าจะได้มรรคได้ผลบางประการไปแล้ว ในเมื่อเข้าใจผิด หลงผิด ก็อาจจะทำให้ท่านทั้งหลายกลายเป็นมิจฉาทิฐิ เสียประโยชน์ที่จะพึงมีพึงได้ไป เหตุเพราะว่าเมื่อท่านเข้าใจว่าตนเองได้มรรคได้ผลแล้ว ก็จะไม่พากเพียรพยายามในการปฏิบัติต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา