ดังนั้น..ในวันนี้ที่บอกกล่าวกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ไปอย่างหนึ่งก็คือว่า ทางวัดของเราพร้อมที่จะสนับสนุนโรงพยาบาล และส่วนราชการทุกอย่าง ก็เพื่อพี่น้องประชาชนของเราเอง แล้วถ้าท่านทั้งหลายติดตามข่าว จะเห็นว่าระยะนี้คณะสงฆ์ทำงานหนักมาก การช่วยเหลือที่ถึงมือชาวบ้านจริง ๆ ส่วนใหญ่มาจากคณะสงฆ์ทั้งหมด ขนาดนั้นก็ยังมีคนมา "ปาดหน้าเค้ก" ซึ่งสำนวนนี้ อาตมภาพก็เพิ่งจะได้ยินเมื่อไม่นานนี้เอง
ก็คือไม่ได้ทำอะไรเลย แต่มาขอเสนอหน้าเพื่อเอาผลงานด้วย..! ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไป ซึ่งในขณะที่เขาวิพากษ์วิจารณ์ อาตมภาพก็คิดว่า การทำงานนั้นขอแค่เราได้ทำ ส่วนทำแล้วใครจะได้ประโยชน์ เราไม่ได้ใส่ใจ ใครจะหาประโยชน์ เราไม่ได้ใส่ใจ เราใส่ใจแค่ว่า ผลดีจะตกถึงมือของชาวบ้านที่ให้การสนับสนุนเราหรือเปล่าเท่านั้น
ซึ่งหลักการทำงานตรงนี้ ต้องบอกว่าเหมาะที่พระจะทำ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วท่านที่บวชเข้ามาก็คือ ไม่ได้ยินดียินร้ายกับทางโลกแล้ว ไม่ได้ใส่ใจกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แล้ว ไม่ได้ใส่ใจว่าสิ่งที่ทำจะเกิดผลดีตอบแทนหรือไม่ แต่ขอให้ได้ทำ ทำเพื่อประเทศชาติ ทำเพื่อประชาชน โดยเฉพาะทำเพื่อญาติโยมที่ให้การสนับสนุนวัดมา
ตรงจุดนี้ทำให้เห็นว่าสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ในปัจจุบันนี้ สถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันศาสนายังเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้อย่างแท้จริง เพราะว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน องค์ในหลวงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ๒,๘๘๐ ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙
ซึ่งหน่วยราชการ คำว่า "ราชการ" ก็คือทำงานของพระราชา ส่วนหนึ่งไม่ค่อยจะทำตามคำว่าราชการ ก็คือไม่ได้ทำงานเพื่อพระราชาที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน แต่กลายเป็นทำเพื่อประโยชน์ของพวกพ้องและตัวกูเอง..! ก็เป็นเรื่องที่แปลก แสดงว่าขาดจิตสำนึกอย่างมากว่าตนเองเป็นใคร ? ทำหน้าที่อะไรอยู่ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-08-2021 เมื่อ 17:49
|