ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพเห็นด้วย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าตรงนี้ที่วัดท่าขนุนทำอยู่ ก็คือพยายามช่วยให้ชาวบ้านมีกินมีใช้ โดยมีแนวคิดที่ว่า ถ้าชาวบ้านมีกินมีใช้ เขาจะมาสนับสนุนวัดเอง แล้วที่ทำมาก็เริ่มเห็นผล เนื่องเพราะว่ามีญาติโยมเข้าวัดมากกว่าก่อนหน้านี้ คำว่าก่อนหน้านี้ก็คือ อดีตเจ้าอาวาส ๒ รูป ถัดจากหลวงปู่สายมา
ส่วนช่วงบ่ายเป็นการเสวนาแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยฉบับที่ ๑๓ ซึ่งตรงนี้ก็แบบเดียวกัน แผนดีแค่ไหน ถ้าขาดงบประมาณก็ไปไม่รอด ส่วนที่หนักหนาสาหัสที่สุดก็คือ ตั้งแต่ ๘ โมงเช้าจนเกือบ ๕ โมงเย็น เนื้อหาต่อเนื่องกัน มีเวลาไปฉันเพลนิดเดียว โดยที่ผู้ดำเนินการบอกด้วยว่า ใครจะฉันเพลหน้าจอก็ได้ ไม่ถือว่าเสียมารยาท ถ้าอยากจะฟังทั้งหมด บังเอิญว่ายังไม่สามารถที่จะทำใจได้ขนาดนั้น ก็เลยแยกไปฉันเพลสัก ๑๐ กว่านาที แล้วค่อยกลับมาฟังต่อ
ตรงจุดนี้ถ้าท่านทั้งหลายสมาธิไม่ทรงตัว มีแต่ตายกับตาย เพราะว่าร่างกายรับไม่ไหว ก็จะเครียดขึ้นไปเรื่อย ๆ บางคนพอเครียดมาก ๆ เส้นเลือดในสมองแตก..! เราต้องดูกำลังของเราเองด้วยว่าไหวแค่ไหน ถ้าไม่ไหวก็ปิดจอ หลบไปพักผ่อน ทำโน่นทำนี่เสียบ้าง
แล้ววันนี้เหตุการณ์ทางด้านกรุงเทพฯ ก็ไม่ค่อยจะดี เพราะว่ามีกลุ่มผู้ประท้วงพยายามจะบุกไปที่พระบรมมหาราชวัง หรือว่าบุกไปที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตรงจุดนี้ต้องบอกว่า "ไม่ใช่ระยะเวลาที่เหมาะสม" เพราะว่าเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ กำลังระบาดอยู่ ถ้านับตรงส่วนนี้ ก็คือขาดหลักธรรมในสัปปุริสธรรม ๗ ประการ ในหัวข้อกาลัญญุตา ก็คือไม่รู้กาลเทศะที่เหมาะสม
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2021 เมื่อ 02:38
|