แต่ว่าตามที่ผมไปศึกษาที่พม่ามา ๖ ปี คำว่า เวลาวิกาล พม่าตีความว่า หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วครับ เพราะฉะนั้น..การฉันอาหารในเวลาวิกาลของเรา เขาก็จะว่ากันประมาณ ๕ โมงเย็น พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินครับ
เข้าบ้านในเวลาวิกาลของเขา ก็คือหลังพระอาทิตย์ตกดินแล้ว แต่บ้านเราห้ามเข้าบ้านในเวลาวิกาล เราตีว่าหลังพระอาทิตย์ตกดินแล้ว แต่ห้ามฉันอาหารในเวลาวิกาล เราตีความว่าหลังเที่ยงครับ บ้านเราลักลั่นกันเองครับ เพราะฉะนั้น..ถ้าไปพม่าหรือไปทางเหนือ เห็นเขาฉันข้าวเย็น อย่าเพิ่งไปตำหนิเขานะครับ
เพียงแต่ว่านักปฏิบัติธรรมของบ้านเราค่อนข้างจะเคร่งครัดกว่า ถึงขนาดมีคำพูดว่า "สามมื้อเพื่อกาม สองมื้อเพื่องาน หนึ่งมื้อเพื่อพรหมจรรย์"ครับ แต่ผมเห็นว่าถ้าหากว่าพระเณรของเราฉันสามมื้อ ก็จะไปกังวลกับอาหารมากเกินไป แล้วร่างกายที่หนักด้วยอาหาร การปฏิบัติภาวนาก็ยาก มักจะไปนั่งหลับเสียเปล่า ๆ เหมือนกับท่านทั้งหลาย เรียนชั่วโมงบ่ายเมื่อไรก็จะตายให้ได้ คืออยากจะนอนมากกว่า
ในเมื่อเขาเอาค่านิยมทางฝั่งพม่า ที่ตีความพระธรรมวินัยเสมอกันในเรื่องเวลาวิกาล ก็คือหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว และภาคเหนือของเราถูกปกครองโดยพม่ามาประมาณ ๖๐ ปี จารีตประเพณีและค่านิยมทางด้านนั้น ชาวบ้านก็เลยไม่ตำหนิติเตียนที่พระฉันอาหารในเวลาวิกาล
สำหรับที่ทางภาคเหนือเขาว่าก็คือ ถ้าพระอาทิตย์ยังไม่ตกดินเป็นอันว่าฉันได้ ผมเห็นสามเณรเล็ก ๆ ปั่นจักรยานกลับบ้าน สักพักหนึ่งก็ปั่นกลับมาพร้อมกับปิ่นโต ๒ เถา ถวายหลวงพ่อเจ้าอาวาสด้วย ของตัวเองด้วย ญาติโยมทำถวายไว้ครับ นี่คือจารีตประเพณีหรือค่านิยมในท้องถิ่น ซึ่งมีอิทธิพลมากครับ
ถ้าหากว่าจารีตประเพณีไม่ยอมรับ แล้วพวกเราไปทำอะไรเข้านี่..เป็นเรื่องเลยครับ โดยเฉพาะท่านทั้งหลาย ถ้าหากว่าเป็นชาวอีสาน ก็จะมี "ฮีตสิบสอง คองสิบสี่" ฮีตก็คือจารีต คือแบบอย่าง คือค่านิยมที่ท้องถิ่นเขาทำอย่างนั้น คองก็คือแนวทางที่ให้ดำเนินไป อย่างเช่นว่า เข้าป่าอย่าพูดถึงเสือ เขาถือครับ นี่เป็นจารีต คือแบบอย่างที่เขาทำเอาไว้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จารีตในท้องถิ่นตรงนั้น เขาไม่ตำหนิหลวงพ่อที่ท่านขี่สกู๊ตเตอร์เลยครับ แล้วถ้าพิจารณาตามหลักมหาปเทส ๔ ผมก็ไม่เห็นข้อบกพร่องของท่าน มีปัญหาอยู่อย่างเดียวก็คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง "เลยธง" ครับ เลยธงนี่ภาษาไทย ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า "ออฟไซด์" ยิงประตูได้ก็ไม่ได้คะแนนครับ
ดังนั้น...ถ้าหากว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เกิดขึ้นในพระพุทธศาสนาของเรา ท่านทั้งหลายที่เป็นนักศึกษา โดยเฉพาะเป็นพระสังฆาธิการ ต้องชี้แจงและทำความกระจ่างให้กับชาวบ้านเขาได้ บอกกล่าวกันโดยธรรมวินัย โดยเหตุ โดยผล ไม่ใช่เถียงกันด้วยกิเลสเพื่อเอาชนะ ชี้แจงให้ชาวบ้านเขารู้ว่าความเป็นจริงคืออะไร เราจะได้ทำหน้าที่ของพุทธบุตรอย่างแท้จริง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-08-2021 เมื่อ 17:50
|