ครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วท่านได้อภิญญาสมาบัติ ทำอะไรให้เห็นต่อหน้าต่อตาบ่อย ๆ คำว่าบ่อย ไม่ใช่ว่าท่านทำอวด ท่านแอบทำ แต่คนก็มักจะรู้
อย่างหลวงพ่ออินทร์ ท่านเป็นพระที่ค่อนข้างจะเคร่งครัด เวลาเดินทางไปกิจนิมนต์ ถ้าหากว่าญาติโยมเอารถมารับ หรือเอาม้ามาให้ขี่ ท่านจะจำไว้ว่าระยะทางประมาณกี่กิโลเมตร เมื่อกลับมาท่านจะเดินจงกรมใช้หนี้ ท่านให้พวกอาตมาช่วยกันทำทางเดินจงกรมยาว ๒๕ วา ก็คือ ๕๐ เมตร เดินไปกลับ ๑ รอบจะได้ ๑๐๐ เมตร ไปกลับ ๑๐ เที่ยวได้ ๑ กิโลเมตร ถ้าหากว่าญาติโยมเอารถมารับไปไกล ๒๐ - ๓๐ กิโลเมตร บางทีท่านก็ต้องเดินจงกรมกันครึ่งค่อนคืน
วันดีคืนดีชาวบ้านเห็นไฟลุกท่วมฟ้าอยู่ทางวัด ก็คว้าถังน้ำคว้าอะไรวิ่งไปจะช่วยกันดับไฟ ปรากฏว่าไปถึงไม่มีอะไรเลย พอไปตะโกนเรียก หลวงพ่ออินทร์ท่านเปิดโบสถ์มาถามว่า "เอะอะอะไรกันวะ ? กูกำลังสวดมนต์อยู่" ญาติโยมบอกว่า "หลวงพ่อ..เมื่อกี้เห็นไฟลุกท่วมโบสถ์ท่วมวัดเลย" ท่านบอกว่า "พวกมึงตาฝาด " หมดเรื่องหมดราวไปเลย
ลักษณะนั้นแสดงว่าท่านเพ่งกสิณไฟแล้วขยายเป็นปฏิภาคนิมิต คราวนี้ปฏิภาคนิมิตของกสิณไฟ จะเป็นเปลวไฟลุกโชติช่วงไปหมด บางคนตกใจคิดว่าไฟไหม้ ทั้งที่ตัวเองอธิษฐานเอง ถึงกับโดดกุฏิหนีก็มี..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2021 เมื่อ 02:39
|