นักวิชาการภายหลังกล่าวว่า นอกจากปาราชิก ๔ ข้อแล้ว ที่เหลือเป็นสิกขาบทเล็กน้อยทั้งหมด บางท่านก็ตัดสินว่า นอกจากปาราชิก ๔ ข้อกับสังฆาทิเสส ๑๓ ข้อแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นสิกขาบทเล็กน้อยทั้งหมด บางท่านก็ตัดสินว่าเฉพาะเสขิยวัตร ๗๕ ข้อ ถึงจะนับได้ว่าเป็นสิกขาบทเล็กน้อย พูดง่าย ๆ ก็คือว่าส่วนอื่นเป็นของหนักทั้งหมด
แต่นั่นเป็นความคิดของพวกเรา เพราะว่าในความรู้สึกของพระอรหันต์ที่สภาพจิตละเอียดถึงที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรเล็กน้อยในพระพุทธศาสนานี้ อย่างเช่นเขื่อน ถ้ามีรูแค่ "ตามด" เล็ก ๆ ปล่อยให้น้ำลอดไปได้ ไม่นานน้ำก็จะเซาะจนรูกว้างขึ้น ๆ แล้วเขื่อนก็พังทลายลงได้ ดังนั้น...พระมหาเถระทั้ง ๕๐๐ รูปจึงมีมติให้คงศีลทุกสิกขาบทเอาไว้ เพราะว่าไม่มีอะไรเล็กน้อย
ในส่วนนี้พวกเราที่เป็นนักปฏิบัติ จะได้ยินกระผม/อาตมภาพย้ำอยู่เสมอว่า ยิ่งทำไป ใจของเราต้องยิ่งละเอียด ต้องเห็นโทษในตนมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วพยายามปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่อะไรก็ได้ ถ้าอะไรก็ได้เมื่อไร แปลว่าเรากำลังหาเรื่องลงนรก..!
ท่านที่สอบถามเรื่องของวัตถุมงคลมา คาดว่าคงจะได้ยินที่อาตมภาพเล่าถึงการไปเสกวัตถุมงคล ในงานเสกพระพุทธรูปประจำชนมวารสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งอาตมภาพเข้ากรรมฐานไป ๑ ชั่วโมงถ้วน ๆ ภาวนาพระคาถาเงินล้านไป ๑๐๘ จบ บวกอย่างอื่นอีกเล็กน้อย ซึ่งพอวันรุ่งขึ้นทางเว็บเพจวัดราชบพิธฯ ก็แจ้งให้ญาติโยมทั้งหลายระงับการจองวัตถุมงคลชุดโลหะ เพราะว่ายอดจองเต็มแล้ว อาตมภาพคำนวณราคาดู วันหนึ่งได้ไป ๔๕ ล้านบาท..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2021 เมื่อ 03:02
|