ถ้าหากว่าเราปฏิบัติตามระเบียบตามวินัยจริง ๆ เท่ากับโดนบีบบังคับด้วยศีลจำนวนมหาศาล ไม่ใช่แค่ ๒๒๗ ข้อ ยังมีอภิสมาจาร คือศีลที่มานอกพระปาฏิโมกข์อีกเป็นจำนวนมาก สิ่งต่าง ๆ ที่เคยทำได้ในสมัยฆราวาสก็ไม่สามารถที่จะทำได้
ถ้าเราดูหลวงพ่อพรหมวังโสซึ่งไปเทศน์สงเคราะห์นักโทษในคุกที่ออสเตรเลีย พอเล่ากิจวัตรประจำวัน และแนวทางการปฏิบัติของพระให้กับบรรดานักโทษได้ฟัง นักโทษเหล่านั้นกล่าวว่า "หลวงพ่อ..มาอยู่กับพวกผมเถอะ อย่าบวชเลย..ที่นี่สบายกว่าตั้งเยอะ..!"
สรุปว่าบรรดาคนที่อยู่ในคุกเห็นว่าการบวชพระลำบากกว่ามาก แล้วลองคิดดูว่า ถ้าหากว่าหน่วยงานไหนที่ตั้งหน้าตั้งตารับเอาเพศทางเลือกเข้ามา ยังสร้างความวุ่นวาย จนกระทั่งหลายหน่วยงานต้องกันออกไป อย่างเช่นว่าการคัดเลือกทหาร ก็เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในองค์กรของตน
ศาสนาพุทธของเราเป็นผู้นำทางจิตใจของชาวบ้าน พระภิกษุเป็นปูชนียบุคคลที่เขาเคารพบูชา ถ้าท่านทั้งหลายคิดว่าบวชเข้ามาแล้ววี้ดว้ายกระตู้วู้อยู่ จะทำให้คนเขาเลื่อมใสหรือไม่ ? ถ้าหากว่าบุคคลไม่เลื่อมใส ศาสนาพุทธจะอยู่ได้หรือไม่ ? ให้ใช้สติและปัญญาตรองดูอย่างจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่เถียงกันเพื่อเอาชนะ แต่ว่าต้องพูดกันด้วยเหตุและผล ต้องดูกาละเทศะและภาวะว่าสังคมยอมรับได้หรือไม่ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-06-2021 เมื่อ 20:03
|