วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ กระผม/อาตมภาพไปรับวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ มา ก็ต้องบอกว่าสบายดีทุกประการ เอาตัวเลขการวัดความดัน และการเต้นของหัวใจไปให้หมอที่ไหนดูก็จะงง เพราะว่าการตรวจสอบก่อนรับวัคซีน ความดันอยู่ที่ ๑๐๑/๕๒ หัวใจเต้น ๗๒ ครั้งต่อนาที ถ้าผมบอกว่าความดันปกติของผมอยู่ที่ ๑๓๐/๙๐ หัวใจอยู่ที่ ๕๒ พวกคุณก็คงจะช็อคกัน..!
หลังจากรับวัคซีนแล้ว ๓๐ นาที พยาบาลมาขอวัดใหม่ ความดันเป็น ๑๐๒/๔๙ หัวใจเหลือ ๗๐ ที่ต้องให้หัวใจเต้นมากหน่อย เพราะว่าถ้าเต้นน้อยเกินไปบางทีคุมร่างกายไม่ได้ แล้วหมอก็มักจะคิดว่าป่วย มีแต่คุณหมอคมสัน ทินกร ณ อยุธยา ที่ต้องบอกว่ารู้จริง คุณหมอจะบอกเลยว่า "หลวงพี่ห้ามภาวนาเด็ดขาดเลยนะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวหมอตรวจหาอะไรไม่เจอ..!"
ในเรื่องของสมาธิภาวนา ถ้าหากว่าพวกเรามีความเคยชินกับการซักซ้อมเข้าออกสมาธิในระดับต่าง ๆ เราจะสามารถเลือกว่าจะให้กำลังสมาธิของเราทรงอยู่ในระดับไหน แล้วในแต่ละระดับของกำลังสมาธิ ร่างกายเราจะทำงานต่างกันไป คือ ตั้งแต่ไม่ทำงานเลยเหมือนกับคนตาย จนกระทั่งถึงการทำงานปกติ ตรงจุดนี้ถ้าท่านทั้งหลายพยายามลองซักซ้อมดู ก็จะสามารถทำได้เช่นกัน
ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านยังอยู่ คุณหมอขออนุญาตติดเครื่องเช็คหัวใจ ๑ คืน พูดง่าย ๆ คือมัดติดกับองค์ท่านเลย แล้วพอรุ่งขึ้นมาตรวจสอบ ปรากฏว่าหมอช็อค..! เพราะว่าหัวใจของหลวงพ่อท่านหยุดเต้นคืนหนึ่ง ๓๐๐ กว่าครั้ง..! ก็คือในช่วงที่เข้าสมาบัติสูงสุด ร่างกายจะเหมือนกับคนตาย อวัยวะภายในหยุดการทำงาน แต่ว่ามี "ปราณละเอียด" อยู่สายหนึ่ง จะวิ่งอยู่ระหว่างจมูกกับสะดือเป็นหลัก แต่ถ้าจำเป็นก็สามารถวิ่งผ่านทุกขุมขนในร่างกายของเราได้ ปราณละเอียดสายนี้เล็ก ๆ ใสเหมือนใยแมงมุม ขาดเมื่อไรตายจริงเมื่อนั้น แต่ด้วยความที่สมาธิละเอียดสูงมาก เราจะรู้สึกว่าปราณเส้นนี้โตเป็นโอบเลย..!
ดังนั้น...ถ้าหากว่าตราบใดที่ปราณเส้นนี้ยังไม่ขาด ต่อให้ร่างกายเหมือนกับคนตายแค่ไหนก็ไม่ตาย แต่ว่าในช่วงที่คลายกลับมาสู่อารมณ์ปกติ ถ้าหากว่าเราออกจากสมาธิช้า ๆ ไม่เป็น คนไหนที่เป็นความดันสูงอยู่จะอันตราย เพราะว่าอัตราการเต้นของหัวใจ ถ้าเราปล่อยออกมาพรวดพราดก็จะพุ่งขึ้นไปถึงระดับ ๑๐๐ กว่าครั้งต่อนาที คนที่ความดันสูงก็อาจจะเส้นเลือดแตกไปเลย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2021 เมื่อ 01:20
เหตุผล: +
|