พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ชื่อเสียงของวงการสงฆ์ไม่ค่อยจะดี ผู้บังคับบัญชาก็เลยมีนโยบายว่า เมื่อทำกิจกรรมอะไรดี ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับชาวบ้าน ก็ให้รีบส่งงานไปเพื่อประชาสัมพันธ์ วัน ๆ อาตมาก็เลยต้องมานั่งส่งงานทางไลน์อย่างที่เห็นอยู่นี่แหละ
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งอาตมาจะรับสังฆทานวันสุดท้าย ไม่เจอกันสองเดือนกว่า มีเวลาเจอหน้ากันแค่สองวัน ปกติวันศุกร์ที่เคยมา เดือนนี้ก็ติดการสอบธรรมศึกษา ที่ทางแม่กองธรรมสนามหลวงเลื่อนมาจากวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ เพื่อหนีโควิด-๑๙ มาชนกับการรับสังฆทานที่นี่ อาตมาก็เลื่อนวันรับสังฆทานเป็นเสาร์-อาทิตย์-จันทร์ ปรากฏว่าวันจันทร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเลี้ยงนักเรียนที่เข้าสอบบาลีทุกสนามทั่วประเทศ อาตมาในฐานะคณะกรรมการสนามสอบจังหวัดกาญจนบุรีจึงต้องไปทำหน้าที่โดยปริยาย
ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่ไปแล้ว เพราะว่าผู้บังคับบัญชาท่านก็เข้าใจว่ากิจการงานสำคัญของอาตมาอยู่ตรงนี้ แต่งานอื่นถึงจะสำคัญขนาดไหนก็ตาม ถ้าหากว่าเป็นงานของทางราชวงศ์มาก็ต้องให้ความสำคัญก่อนเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะเป็นในหลวงด้วย ต่อให้เป็นตายอย่างไรก็ต้องตะเกียกตะกายกลับไปให้ทัน ไม่เช่นนั้นแล้วข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไม่มีใครรับไหว โดยเฉพาะองค์ในหลวง ร.๑๐ พระองค์ท่านตั้งพระทัยปรับปรุงคณะสงฆ์ไทยจริง ๆ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-03-2021 เมื่อ 18:38
|