คำชมเชยอันบ่งชี้ไปถึงกาลในอนาคตของพระภิกษุลึกลับ ทำให้สามเณรกองแก้วรู้สึกอัศจรรย์ใจยิ่งขึ้น ฟังดูเหมือนแสดงให้รู้ว่าเป็นพระผู้ทรงอภิญญาขั้นสูงเยี่ยม เพราะผู้ที่สามารถรู้วาระจิตของมนุษย์ และรู้กาลในอนาคตอันยังมาไม่ถึง มีเพียงผู้ทรงอภิญญาสมาบัติเท่านั้นจึงมีความสามารถกระทำได้
แต่เรื่องเกี่ยวกับเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่มหึมายิ่งกว่าเสือโคร่งธรรมดาหลายเท่า ยังเป็นสิ่งรบกวนจิตใจ เป็นความคลางแคลงสงสัยไม่สร่างซา
สามเณรน้อยไม่เชื่อว่ามีเสือชนิดใดในโลกจะตัวใหญ่ถึงเพียงนั้น น่าจะเป็นเสืออาคมจำแลงแปลงร่างมาจากผู้ทรงความรู้สูงด้านไสยเวทย์เสียมากกว่า อาจจะเป็น "เสือเย็น" ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านป่าวัยกลางคนที่เจอเมื่อวานซืน จึงไต่ถามพระภิกษุลึกลับว่าเป็นเสือจริง ๆ หรือเสืออันอุบัติขึ้นจากวิชาลี้ลับกันแน่
พระภิกษุรูปนั้นกล่าวอย่างเคร่งขรึมสำรวมให้สามเณรฟังเสียงเยือกเย็นแช่มช้า
"เสือจริงหรือเสือปลอมไม่มีความสำคัญอะไร ใจเราสำคัญกว่าทุกอย่างที่มีในมหาจักรวาล อย่าเอาใจใส่เรื่องเสือ เมื่อใจเรามีศีล สมาธิ ปัญญา ครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว เราย่อมมีชัยชนะทุกอย่าง เสือสางหรืออำนาจเร้นลับประการใดย่อมทำอันตรายเราไม่ได้"
สามเณรน้อยกราบนมัสการคำตักเตือนของพระภิกษุลึกลับ จากนั้นเลียบเคียงถามท่านว่าหลวงพ่อมาจากไหน กำลังจะไปไหน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 02-01-2010 เมื่อ 21:37
|