เมื่อกลายเป็นเสือตัวใหญ่มหึมาเท่าควายเปลี่ยว จึงจับวัวควายของชาวบ้านคาบไปกินได้อย่างสบาย เพียงงับเข้าที่ก้านคอวัวควาย สะบัดหัวให้ร่างที่ลำคอแหลกยับคาคมเขี้ยวลอยขึ้นไปพาดบนหลัง มันก็โจนทะยานเอาไปนอนแทะซากวัวควายกินอยู่ภายในป่า ใครก็ไม่กล้าออกติดตามไล่ล่า เพราะเสือเย็นตัวใหญ่มหึมาและคล่องแคล่วเคลื่อนไหวได้รวดเร็วปานลมพัด
เวลาผ่านไปมีชาวบ้านออกไปหาของป่า เช่น สมุนไพร เศษฟืน เจอเสือเย็นกลางป่าที่ดักรออยู่ พวกชาวบ้านป่าถูกเสือเกิดจากอาคมตนนี้คาบไปกินหลายรายแล้ว
ชายวัยกลางคนขอให้สามเณรรีบย้อนกลับไปเข้าวัดโดยเร็ว ขืนท่องตระเวนอยู่ในดงดิบมีหวังประจัญหน้ากับเสือเย็นอันน่าพรั่นพรึง กลายเป็นอาหารอันโอชะของมันเสียเปล่าไม่เข้าการ
สามเณรกองแก้วไม่นึกหวาดกลัวเสือเย็นที่ได้รับคำบอกเล่าแม้แต่น้อย ชี้แจงให้ชายวัยกลางคนผู้นั้นฟังว่า
"คนเราเกิดมายากดีมีจนเช่นไร ยามมีชีวิตต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพกันต่าง ๆ นานา วาระสุดท้ายคือตายทิ้งสังขารไปเหมือนกันหมด อาตมาเป็นสามเณร ถือว่าเกิดมาในชาตินี้มีบุญกุศลเกื้อหนุน ได้บวชในบวรพุทธศาสนา จึงยอมสละซึ่งอัตภาพสังขารเพื่อปฏิบัติบำเพ็ญเพียรให้รู้แจ้งเห็นจริง อุทิศชีวิตแล้วเพื่อแสวงหาธรรมชั้นสูงอันหาได้ยากในบ้านในเมือง เสือเย็นหากเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรของอาตมา หนีอย่างไรก็คงหนีกันไม่พ้น อาตมาประสงค์จะบำเพ็ญตบะธรรมโดยไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง เพราะผู้ชักช้ารีรอถือว่าเป็นผู้ตั้งตนอยู่บนความประมาท"
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 30-12-2009 เมื่อ 07:33
|