คำว่า "หนาน" หมายถึงผู้ที่สึกจากพระภิกษุ เหมือนกับภาษาภาคอีสานและภาษาภาคกลางว่า "ทิด" ส่วนผู้ที่สึกจากการบวชเป็นสามเณร ทางภาคเหนือเรียกว่า "น้อย" ทางภาคอีสานเรียกว่า "เซียงน้อย"
บิดาของหนูน้อยกองแก้ว มีผู้เรียกว่า "พ่อหนาน” หรือ "หนานพรหมเสน" ก็เพราะเคยบวชเรียนมาก่อนแล้วนั่นเอง ความรอบรู้ในข้ออรรถข้อธรรมในสมัยที่เป็นพระภิกษุ จึงถูกนำมาใช้อบรมสั่งสอนกุลบุตรทุกคน ในจำนวนพี่น้องทั้ง ๗ คนของหนูน้อยกองแก้ว ให้เคารพเลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัย
เรียนจบชั้นประถมปีที่ ๓ อายุ ๑๕ ปี หนูน้อยกองแก้วได้เข้าอบรมเป็นศิษย์วัดสันป่าสักอยู่ ๓ เดือน หัดท่องเรียนเขียนอ่านอักขระพื้นเมืองทางเหนือ เรียนสวดมนต์ รู้สิกขาของสามเณร จากนั้นจึงบวชเป็นสามเณรที่วัด"แม่สารบ้านตอง" มีเจ้าอธิการคำมูล ธมฺมวํโส เป็นพระอุปัชฌาย์
เป็นสามเณรได้หนึ่งพรรษา สามเณรกองแก้วใส่ใจในการปฏิบัติจิตเจริญกรรมฐานเป็นพิเศษ มีจุดประสงค์แน่วแน่อยู่เสมอมา เกี่ยวกับการเดินธุดงค์เข้าสู่ป่าเขาลำเนาไพร เฉกเช่นพระสงฆ์องค์ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ที่บวชเรียนแล้วนิยมจาริกธุดงค์เข้าสู่ไพรลึกเถื่อนถ้ำดงกันดาร บำเพ็ญตบะธรรมมุ่งหวังให้จิตบรรลุลึงธรรมวิเศษ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 02-01-2010 เมื่อ 21:46
|