๒๕ "กิจนิมนต์ที่กรุงเทพฯ (ป้าเม้าท์ฉายเดี่ยว)"
หลังจากเจอกับคุณหม่อมที่สนามบินตามเวลานัดหมายแล้ว ในเรื่องของการเดินทางในครั้งนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เรื่องของเจ้ากรรมนายเวรตามราวีให้เจ็บด้วยอาการปรับความกดอากาศภายในหูนั้นก็หายเป็นปกติไม่ได้เกิดอาการใด จะมีเพียงก็เศษกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้เห็นว่า การให้ความเคารพความสำคัญต่อพระสงฆ์องค์เจ้าในสังคมปัจจุบันนั้นมันน้อยลงไปเรื่อย ๆ
รอขึ้นเครื่องโดยปกติแล้ว สายการบินมักจะให้ความเอาใจใส่โดยจะนิมนต์พระภิกษุขึ้นเครื่องก่อนเพื่อความสะดวกในเรื่องของที่นั่งก็ดี และเรื่องอื่นก็ดี
นั้นนับเป็นสิ่งที่ดี แต่วันนั้น กระผมพบเจอกับพนักงานซึ่งหากคิดในแง่ดีก็คือ ยังขาดประสบการณ์อยู่ก็ได้หรือเป็นเศษกรรมของกระผมเอง
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ "โยมนี้ตั๋วเลขที่นั่งของอาตมา จะขึ้นเครื่องแล้วใช่หรือไม่ โยม..." ยังไม่ทันพูดขาดคำ
พนักงานสาวของสายการบินหนึ่ง: "หลวงพี่ไปยืนรอด้านโน้นก่อนนะคะ"
กระผมเองก็ขยับตัวไปยืนรอที่มุมของโต๊ะรายงานตัวขอขึ้นเครื่อง
เห็นแขกชาวต่างชาติก็ดี ผู้โดยสารคนไทยก็ดีต่างทยอยมาเข้าคิวรอขึ้นเครื่อง และแล้วพนังงานกลุ่มนั้นก็ทำงานไปตามปกติ กระผมยืนรอแล้วรออีกจนกลายเป็นคนสุดท้าย ก็เลยถามกับพนังงานคนนั้นไปว่า
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ :"โยมโดยปกติถ้ามีพระหรือนักบวช ร่วมโดยสารไปนั้น โยมจะอำนวยความสะดวกให้ขึ้นเครื่องก่อนไม่ใช่หรือ เพื่อความสะดวกหลาย ๆ อย่างของพระก็ดี นักบวชก็ดี ทำไมคราวนี้โยมให้อาตมายืนรอเป็นคนสุดท้ายเลยละ ครั้งที่แล้วอาตมาก็โดยสารกับสายการบินนี้แหละ เห็นว่าให้ความอนุเคราะห์ต่อพระดีมาก อาตมายังชื่นชมอยู่เลย"
หัวหน้าชุดบริการ :"อ้าวแล้วทำไมเธอไม่ดูแลให้หลวงพี่ท่านไปก่อนล่ะ"
พนักงานสาวของสายการบินหนึ่ง:"ก็หนูเห็นคนอื่นมายืนรอกันแล้ว"
หัวหน้าชุดบริการ :"อ้าว! แล้วพระท่านก็มายืนรอเหมือนกัน ท่านยืนรออยู่นานแล้ว เก้าอี้สักตัวให้ท่านนั่งยังไม่มีเลย"
พนักงานสาวของสายการบินหนึ่ง :...................เงียบ
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ : "ไม่เป็นไรโยม แล้วนี่เหลืออาตมาเป็นคนสุดท้ายแล้วนะ จะให้เข้าไปได้หรือยัง"
หัวหน้าชุดบริการ: "นิมนต์ครับหลวงพี่"
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ :เจริญพร
พอกระผมโผล่ขึ้นไปบนเครื่องบิน ปราฏกว่าที่นั่งของพระภิกษุมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ โชคดีที่มีน้องผู้ชายที่นั่งอีกฝั่งหนึ่ง จัดการขอสลับที่นั่งให้ อะไรมันจะขนาดนี้ เรื่องเจ็บไข้ได้ปวด "เขา" เล่นเราไม่ได้ "เขา" ก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องอื่นแทน เอาก็ชดใช้กันไป เจริญพรคุณโยมเจ้ากรรม
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ : "ฮัลโหล....เจริญพรโยมทิดตู่ หลวงพี่ถึงกรุงเทพฯ แล้ว....เอ่อคือว่า หลวงพี่อยากจะกลับวัด เพราะรู้สึกว่าอยู่ที่บ้านแล้วมันไม่ค่อยสบายใจสบายเนื้อสบายตัวแบบอยู่ที่วัด......อ๋อโยมก็เป็นเหมือนกันหรือ....ใช่ถูกต้อง
หลวงพ่อท่านเคยบอกว่า "ที่นั่นไม่ใช่ที่ของเรา"...หลวงพี่เลยกะว่าจะให้โยมหม่อมไปส่งที่วัด.....อะไรนะสัญญาณไม่ค่อยชัด...หา.. หลวงพี่เผื่อน อ๋อพระอาจารย์เผื่อนหรือ? ท่านอยู่กรุงเทพหรือแล้วเย็นนี้โยมต้อมไปรับท่านมาพักที่บ้านโยมต้อมหรือ?....อะไรนะจะนิมนต์หลวงพี่พักด้วยกับพระอาจารย์เผื่อนหรือ? ...ขอหลวงพี่คิดดูก่อนนะ หลวงพี่อยากกลับวัด คนอื่นเขาอยากกลับบ้านแต่หลวงพี่อยากกลับวัดนะโยมทิดตู่....อะไรนะช่วยอยู่สงเคราะห์ญาติโยมหรือ?...ขอคิดก่อนสักครู่นะ....เอาก็เอา พระอาจารย์เผื่อนท่านอยู่ด้วย หลวงพี่ว่าก็นับเป็นเรื่องธรรมะจัดสรร เพราะหลวงพี่เพิ่งจะเข้าใจในคำพูดของหลวงพี่กวางแล้วว่า หลวงพี่เป็นพระใหม่ การจะไปไหนมาไหนนั้นควรจะนิมนต์พระรุ่นพี่ที่บวชตั้งแต่สามพรรษาขึ้นไป ไปด้วยเพื่อช่วยดูแล
เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของศีลของพระนั่นละ ขนาดว่าหลวงพี่ว่าหลวงพี่ก็หนึ่งในตองอูแล้วนะ หลวงพี่ยังรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเลย เอา ๆ โยมหลวงพี่รับนิมนต์ เดี๋ยวให้โยมหม่อมโทรหาโยมต้อมก่อนนะ คืนนี้คงไปพักกับที่บ้านโยมต้อมกับพระอาจารย์เผื่อนท่าน....เจริญพรขอให้มีความคล่องตัวโยม"
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 16-12-2009 เมื่อ 08:21
|