ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 25-03-2009, 09:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังที่ได้กล่าวมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า วันมาฆบูชานี้เป็นวันสำคัญของพระพุทธศาสนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประกาศอุดมการณ์สูงสุดของพระพุทธศาสนา คือ การล่วงพ้นจากความทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะเข้าถึงได้ก็ด้วยการปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา และความอดกลั้นอดทน ประกาศหลักการในพุทธศาสนาว่าเราต้องไม่ว่าร้ายใคร ต้องไม่ทำร้ายใคร เป็นผู้สำรวมในศีลตามเพศภาวะของตน เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในที่นั่งที่นอนอันสงัด เป็นผู้รู้จักประมาณในการกิน และรักษาสภาพจิตของเราให้มั่นคงอยู่เสมอ และวิธีการในพุทธศาสนาก็คือ ละเว้นจากความชั่วทั้งปวง กระทำความดีให้ถึงพร้อม และพยายามชำระจิตใจของตนเองให้ผ่องใสจากกิเลส

ญาติโยมที่ตั้งใจมาบำเพ็ญบุญกุศลในวัดท่าขนุนเนื่องในวันมาฆบูชานี้ ชื่อว่าท่านทั้งหลายพยายามกระทำตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงสรรเสริญว่า ท่านทั้งหลายที่พยายามเสริมสร้างคุณความดี ในทาน ในศีล ในภาวนานี้ จะเป็นกัลยาณชน คือ บุคคลที่พยายามเสริมสร้างความดี ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายก้าวเข้าสู่ความเป็นพระโสดาบันเมื่อไหร่ก็จะกลายเป็นอริยชน คือผู้ที่มีแต่เจริญขึ้นโดยไม่ตกต่ำ

การที่จะเป็นพระโสดาบัน เป็นผู้เจริญขึ้นโดยไม่ตกต่ำนั้น ท่านบอกว่าต้องเป็นผู้มีความเคารพในพระพุทธเจ้าจริงๆ มีความเคารพในพระธรรมจริงๆ มีความเคารพในพระสงฆ์จริง ๆ ไม่ล่วงล้ำก้ำเกินด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ เป็นต้น เป็นผู้ที่รักษาศีลทุกสิกขาบทได้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ล่วงศีลด้วยตัวเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นกระทำ ไม่ยินดีเมื่อคนอื่นกระทำ และข้อสุดท้าย เป็นผู้มีปัญญารู้แจ้งเห็นจริงว่า เรามีความตายเป็นปกติ ต้องก้าวไปหาความตายอยู่เสมอ เป็นผู้ไม่หวั่นไหวต่อความตาย รู้ว่าการตายนั้นจะต้องมาถึงเรา ตั้งเป้าเอาไว้ว่า ถ้าตายเมื่อไรเราขอไปให้ไกลที่สุด คือ เข้าสู่พระนิพพาน แล้วหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ชำระ ความรัก โลภ โกรธ หลงในใจ ของเราให้ลุล่วงไปทีละน้อย ๆ เพื่อก้าวสู่ภพภูมิที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ก็ชื่อว่าท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติตามหลักการ อุดมการณ์และวิธีการทางพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์บริบูรณ์

อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชชนาในมาฆบูชากถาก็พอสมควรแก่เวลา ท้ายสุดแห่งพระธรรมเทศนา อาตมภาพขอตั้งสัตยาธิษฐานอ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธะรัตนะ ธัมมะรัตนะ และสังฆะรัตนะเป็นประธาน มีบารมีธรรมของหลวงปู่สาย อคฺควํโส แห่งวัดท่าขนุนเป็นที่สุด ได้โปรดดลบันดาลให้ญาติโยมทั้งหลายที่พร้อมใจกันมาบำเพ็ญบุญกุศลในวันนี้ เป็นผู้มีความเป็นอยู่คล่องตัว มีความปรารถนาที่สมหวังทุกประการ ประสบแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูลผล แลเจริญไปด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ แลปฏิภาณ ตลอดจนธนสาร คุณสาร และธรรมสารสมบัติอันเป็นที่สุขใจทั้งปวง อาตมภาพทำหน้าที่วิสัชชนามาก็พอสมควรแก่เวลา จึงขอสมมติยุติพระธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวัง ก็มีด้วยประการละฉะนี้

พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์บนศาลาวัดท่าขนุน
วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2011 เมื่อ 02:34
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา