ชื่อกระทู้: อาการตกใจ
ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 19-11-2009, 12:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,847 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่เล่าให้ฟังก็เพื่อที่จะบอกว่า พัฒนาการของการปฏิบัติจะมีการก้าวขึ้นไปเรื่อย ๆ ถ้าเราทำจริงจังและสม่ำเสมอ เพียงแต่ว่าจุดที่ผ่านแล้วเราเห็นชัดเจนที่สุด เราจึงจะได้รู้ว่าตอนนี้เราก้าวหน้าแล้ว ส่วนจุดที่ยังไม่ชัดเจน ถ้าเราไม่ใช่คนช่างสังเกตจริง ๆ ก็จะไม่เห็น

เหมือนอย่างพวกเราที่คิดว่าทำมาจนป่านนี้ยังไม่ได้อะไรเลย ไม่จริงหรอก...ได้ทุกคน ให้ลองมองย้อนกลับไปว่า ก่อนหน้านี้เรามีศีลสักกี่ข้อ ? แล้วปัจจุบันนี้เรารักษาได้ตั้งเท่าไรแล้ว ? ก่อนหน้านี้เราทำสมาธิได้ครั้งละ ๕ นาที ๑๐ นาทีได้ไหม ? เดี๋ยวนี้ครึ่งชั่วโมงเราก็นั่งได้อยู่ ถ้ารู้จักสังเกตก็จะเห็นความก้าวหน้าพัฒนามาขึ้นเรื่อย ๆ แต่ว่าต้องจริงจังและสม่ำเสมอนะ ทำ ๆ ทิ้ง ๆ ผลจะไม่เกิด ถ้าหากทำ ๆ ทิ้ง ๆ จะเห็นความก้าวหน้าของกิเลส คือเวลากิเลสตีกลับ มักจะเล่นงานเราหนักกว่าเดิมทุกทีเลย

ฉะนั้น..ทำจริงและทำให้ต่อเนื่อง แล้วทุกคนก็จะสามารถทำได้แบบนี้ พอถึงเวลาเกิดอะไรขึ้นก็เฉย อย่างรถชนตูม อาตมาเปิดประตูลงไป ไม่ได้ดูว่ารถจะเสียหายอย่างไร ก็ไปถามคนอีกฝ่ายหนึ่งก่อนว่ามีใครเจ็บไหม ? รถมีประกันไหม ? ดูแลเขาเรียบร้อยแล้วค่อยมาดูว่ารถของเราพังแค่ไหน ไม่ได้ตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2014 เมื่อ 13:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 77 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา