ที่เล่าให้ฟังก็เพื่อที่จะบอกว่า พัฒนาการของการปฏิบัติจะมีการก้าวขึ้นไปเรื่อย ๆ ถ้าเราทำจริงจังและสม่ำเสมอ เพียงแต่ว่าจุดที่ผ่านแล้วเราเห็นชัดเจนที่สุด เราจึงจะได้รู้ว่าตอนนี้เราก้าวหน้าแล้ว ส่วนจุดที่ยังไม่ชัดเจน ถ้าเราไม่ใช่คนช่างสังเกตจริง ๆ ก็จะไม่เห็น
เหมือนอย่างพวกเราที่คิดว่าทำมาจนป่านนี้ยังไม่ได้อะไรเลย ไม่จริงหรอก...ได้ทุกคน ให้ลองมองย้อนกลับไปว่า ก่อนหน้านี้เรามีศีลสักกี่ข้อ ? แล้วปัจจุบันนี้เรารักษาได้ตั้งเท่าไรแล้ว ? ก่อนหน้านี้เราทำสมาธิได้ครั้งละ ๕ นาที ๑๐ นาทีได้ไหม ? เดี๋ยวนี้ครึ่งชั่วโมงเราก็นั่งได้อยู่ ถ้ารู้จักสังเกตก็จะเห็นความก้าวหน้าพัฒนามาขึ้นเรื่อย ๆ แต่ว่าต้องจริงจังและสม่ำเสมอนะ ทำ ๆ ทิ้ง ๆ ผลจะไม่เกิด ถ้าหากทำ ๆ ทิ้ง ๆ จะเห็นความก้าวหน้าของกิเลส คือเวลากิเลสตีกลับ มักจะเล่นงานเราหนักกว่าเดิมทุกทีเลย
ฉะนั้น..ทำจริงและทำให้ต่อเนื่อง แล้วทุกคนก็จะสามารถทำได้แบบนี้ พอถึงเวลาเกิดอะไรขึ้นก็เฉย อย่างรถชนตูม อาตมาเปิดประตูลงไป ไม่ได้ดูว่ารถจะเสียหายอย่างไร ก็ไปถามคนอีกฝ่ายหนึ่งก่อนว่ามีใครเจ็บไหม ? รถมีประกันไหม ? ดูแลเขาเรียบร้อยแล้วค่อยมาดูว่ารถของเราพังแค่ไหน ไม่ได้ตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2014 เมื่อ 13:05
|