ก่อนอื่นขอ "อ้วก" ก่อนนะครับ คำพังเพยเขียนเอาไว้ว่า "อายครูบ่รู้วิชา" ต้องขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ช่วงนี้งานมันเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ กระผมเองพยายามใช้เวลาให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าให้มากที่สุด แต่ละตอนที่เขียนมันต้องเรียบเรียงออกมาจากความรู้สึกและรูปภาพที่มีให้ได้บรรยากาศและสาระ บางครั้งแค่สองสามบรรทัด นั่งคิดแล้วคิดอีก บางตอนใช้เวลาร่วมสองสามชั่วโมง แค่คิดและเขียน ยังไม่รวมมานั่งไล่แก้คำผิดนะครับ.....
"ต้นไม้ไร้นกเกาะถึงดูไม่เหมาะก็ไม่เป็นไร แต่ถ้านกไร้ต้นไม้เกาะ มันดูไม่เหมาะเพราะไม่เหลืออะไร" เป็น "ท่อนสร้อย" ของเพลงเพลงหนึ่ง กระผมเองก็จำชื่อเพลงไม่ได้ ทำนองและคำร้องโดย "เทียรี่ เมฆวัฒนา" ผมฟังแล้วมันสะดุดใจให้คิด เลยเอามาวิปัสสนาเป็นข้อธรรมส่วนตัวของกระผมไปเรื่อย