"วัดท่าขนุนได้ระดับประเทศมาแล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ เป็นรางวัลสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งระดับประเทศนี่ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดมี ๑,๕๐๐ เกือบ ๑,๖๐๐ แห่ง มีแค่ประมาณ ๒๐๐ กว่าแห่งภายใน ๕-๖ ปีที่เขาให้มา นี่ก็เลยว่าในเมื่อเป็นระดับจังหวัด เราก็สละให้วัดอื่นที่เขาทำงานอยู่ ปรากฏว่าปีนี้เขาบอกว่าไม่ได้ อย่างไรก็ต้องเอา
เรื่องของการทำงานได้รางวัลหรือไม่ได้รางวัล ด้วยนิสัยเฉพาะตัวอาตมาก็ทำ รางวัลได้มาไม่ใช่ตัวเองดีใจนะ กลายเป็นญาติโยมกระตือรือร้นกันขึ้นมาอีกเยอะเลย เพราะเห็นว่าทำแล้วได้ เดี๋ยวนี้งานชุมชนคุณธรรมคึกคักกันมาก ช่วงนี้สำรวจทางรถไฟสายมรณะ ผลงานออกมา ๔๐๐ กว่าหน้า มีทั้งสัมภาษณ์มีอะไรเต็มไปหมด บอกเขาว่า เฮ้ย...เดี๋ยวตอนเกลางานชุดสุดท้ายใส่ชื่อหลวงพ่อลงไปด้วย เดี๋ยวหลวงพ่อจะไปส่งเป็นงานวิจัยของตัวเอง อาตมาเป็นประธานคณะหาข้อมูลอยู่แล้ว
พวกเขาที่กระตือรือร้นเพราะว่างานหลายส่วนต้องใช้งบประมาณ อย่างการเดินทางมาหาข้อมูลในกรุงเทพฯ พวก Documentary ก็ทำทางด้านนี้ ด้านโน้นก็ลงสำรวจพื้นที่ ไปสัมภาษณ์คนเก่าคนแก่ พอถึงเวลาตั้งเป็นคณะทำงานก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าพาหนะ ฯลฯ บางคนก็ทำด้วยใจจริง ๆ ให้อะไรก็ไม่เอา บอกว่าอยากทำ เกษียณแล้วนั่งเซ็ง ๆ เจอบุคลากรแบบนี้พอถึงเวลาทำงานแล้วได้รางวัลอะไรมา เขาก็ตื่นเต้นกัน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:20
|