ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 08-11-2009, 10:47
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,611 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรียกว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับพระหลายรูป ตัวอย่างที่ชัดที่สุดก็คือหลวงปู่บุดดา ท่านเป็นพระธรรมยุติ แต่ท่านจับเงิน แล้วไม่มีพระธรรมยุติรูปไหนกล้าว่าหลวงปู่บุดดา

ทั้ง ๆ ที่พระธรรมยุติท่านจะเคร่งครัดมาก เวลาญาติโยมผู้ชายนวดหลวงปู่บุดดาอยู่ ญาติโยมผู้หญิงก็มองตาละห้อย อยากจะนวดหลวงปู่บ้าง หลวงปู่ก็ยื่นเท้าให้เฉยเลย ไม่มีพระธรรมยุติรูปไหนกล้าว่าหลวงปู่อีกตามเคย

หลวงปู่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสียจนกลายเป็นปาปมุติ ภาษาพระแปลว่า ผู้เหนือบุญเหนือบาปแล้ว พ้นจากบาปโดยสิ้นเชิงแล้ว ทำจนกระทั่งทุกคนเชื่อมั่นว่าท่านบริสุทธิ์จริง ๆ ก็เลยไม่มีใครกล้าติฉินนินทาหลวงปู่เลยแม้แต่นิดเดียว

ปี ๒๕๑๗ - ๒๕๑๘ - ๒๕๑๙ วัดท่าซุงเริ่มก่อสร้างโบสถ์ หลวงปู่บุดดาพร้อมด้วยหลวงปู่หลวงพ่ออีกประมาณ ๑๐ องค์ก็ไปช่วยงาน หลวงพ่อท่านนิมนต์ไปพักอยู่ที่วัดท่าซุงเลย คราวนี้พวกเราเคยชินกับคำว่าทำบุญ มักจะเอาแก้วสารพัดนึกก็คือเงินไว้ก่อน

หลวงปู่บุดดาท่านจะทำอย่างไร ? ลูกศิษย์ท่านก็เอาถุงวางไว้ตรงหน้า พวกเราก็ใส่เงิน ใส่เงิน พอถึงเวลาโยมทำบุญเสร็จเรียบร้อย ลูกศิษย์ก็ผูกปากถุงส่งให้ หลวงปู่บุดดาแหวกย่ามเสียกว้างเชียวนะ กลัวจะกระทบเงิน ลูกศิษย์ก็หย่อนใส่ย่าม

หลวงพ่อหันมาพอดี "อ๋อ..ไม่อยากได้ใช่ไหม ?" ท่านคว้าหมับเลย หลวงปู่บุดดาสองมือตะครุบหมับ "จับแล้วครับ.." บอกหน้าตาเฉยเลย "จับแล้วครับ.."

หลวงพ่อบอก "เออ..ต้องอย่างนั้นซิ กะอีแค่ธาตุสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม ปล่อยให้เกาะใจได้ก็อย่าเอาเลย ผมเอาเองก็ได้.."

ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่บุดดาจับเงินมาตลอด แล้วก็ไม่มีพระธรรมยุติรูปไหนกล้าว่าหลวงปู่ นั่นแหละ..หลวงพ่อท่านทำให้รู้ว่า เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จริง ๆ แล้วสำคัญตรงใจ แต่ว่าสิ่งใดก็ตามที่พระพุทธเจ้าท่านห้ามเอาไว้ เราต้องเคารพและปฏิบัติตาม

เพียงแต่ว่า ก่อนที่พระพุทธเจ้าท่านจะปรินิพพาน ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า “อานันทะ ดูก่อน..อานนท์ หลังจากตถาคตนิพพานไปแล้ว สิกขาบทเล็กน้อยที่ไม่เหมาะสมกับยุคสมัย ให้สงฆ์พร้อมใจกันสวดเพิกถอนสิกขาบทนั้นได้” คือว่าศีลข้อไหนถ้าไม่เหมาะกับยุคสมัย ให้พระพร้อมใจกันยกเลิกได้ แต่คราวนี้ว่า พระทั้งหมดท่านเคารพพระพุทธเจ้า ก็เลยไม่มีใครกล้าแตะต้องมาตลอด

หลวงพ่อบอกว่า "ฉันดูมาตลอดแล้ว สองร้อยยี่สิบเจ็ดข้อ มีข้อจับเงินข้อเดียวที่น่าถอนทิ้งที่สุด เพราะว่าพระไปไหนก็จำเป็น ขึ้นรถขึ้นราก็จำเป็น ซื้อข้าวซื้อของ ซื้ออาหารก็ต้องใช้เงิน เจ็บไข้ได้ป่วยไปหาหมอก็ต้องใช้เงิน.." แต่พระท่านเคารพพระพุทธเจ้าจึงไม่มีใครเพิกถอน

หลวงพ่อเองท่านเลยให้พระวัดท่าซุง..ไม่ทราบว่ารุ่นอื่นเป็นอย่างไร แต่รุ่นอาตมาบวช ๓๖ รูป รุ่นนั้นท่านให้ปฏิญาณตัวเลย ท่านใช้คำว่า "เราจะจับเงินและทอง (บอกให้รู้เลยว่า ไม่ให้ก็จะเอานะ...(หัวเราะ)...) ที่ผู้มีจิตศรัทธาถวาย แต่จะใช้ในสิ่งที่สมควรแก่สมณสารูปเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะผลักเข้ากองบุญการกุศล เพื่อเพิ่มบุญให้แก่ผู้ที่มาถวาย" บอกชัดเลยจ้ะ เพราะฉะนั้น..อาตมาจึงรับเงินอย่างสบายใจที่สุด

ถาม : แล้วมีข้อจำกัดไหมครับ ?
ตอบ :อย่าพกเงินเกิน ๕ ล้าน มากไปจะหนัก ...(หัวเราะ)..มีข้อจำกัดไหม..ไม่มี

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2010 เมื่อ 02:44 เหตุผล: แก้คำผิด สิกขาบถ-สิกขาบท
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา