"การที่ลดกำลังใจลงมา ก็จะเหนื่อยมาก ๆ บางคนท้อ ต้องเลิกทำหน้าที่ไปเลย แต่ถ้ากำลังใจของเรามั่นคง ปรับขึ้นปรับลงได้ ถึงเวลาเจอกับสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วไม่มีอะไรค้างคาในใจ จะทำได้เต็มที่มากกว่า
เพราะฉะนั้น...แม่ชีขาดการบ่มเพาะตัวเองในระยะเวลาที่เพียงพอ ก็เลยทำให้อ่านปัญหาไม่ขาด บริหารจัดการไม่ถูกต้อง ก็มีการกระทบกระทั่งกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ความจริงถ้าออกไปทำอะไรของตัวเองได้ก็ดี อาละวาดได้เต็มที่หน่อย ถ้าอยู่ร่วมกับคนอื่นเขา ก็อยู่ในลักษณะที่ว่าต้องเกรงใจเขาแบบนี้
แต่การที่เราออกไปทำอะไรด้วยตัวเอง จะลำบากตรงที่ว่าถ้าเราเป็นใหญ่ในสถานที่นั้น ภาพที่สะท้อนจากคนอื่นจะบิดเบี้ยว ไม่ใช่ตัวเราที่แท้จริง ที่บิดเบี้ยวก็คือเขาไม่กล้าพูด ไม่กล้าบอกเราอย่างเต็มที่เหมือนกับเมื่อก่อนนี้ เพราะว่าเรามีอำนาจสิทธิ์ขาดตรงนั้น เขาก็เกรงใจ
ฉะนั้น...เวลาคนเราพอก้าวขึ้นสู่ที่สูงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ อัตตนา โจทยัตตานัง ต้องกล่าวโทษโจทย์ตัวเองไว้เสมอ ถ้าไม่มีการกล่าวโทษโจทย์ตัวเองไว้เสมอ คนอื่นเขาไม่สามารถเป็นกระจกให้กับเราได้ เพราะว่าเกิดความเกรงใจ หรือไม่ก็กลัวว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกินใจกัน คบหากันต่อไปไม่ได้ เขาก็หุบปากไม่พูด เราก็แย่
ตรงนี้ก็ถือว่านินทาไว้เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนส่วนรวม ถ้าหากว่ามีใครที่คิดจะทำอย่างนี้บ้าง ต้องบ่มเพาะตัวเองให้มั่นคงได้ระยะหนึ่งก่อน ระยะเวลามากน้อยตามสภาพของตนเอง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2019 เมื่อ 03:16
|