๑๑.กิจนิมนต์ "เขื่อนเขาแหลม"
"เรือนแพ สุขจริง อิงกระแสธารา" ด้วยความบังเอิญหรืออะไรมิทราบ "ท่านปาน" ท่านรับกิจนิมนต์ไปฉันเพลสงเคราะห์ญาติโยมที่บ้าน ก็มีท่านบอย,ท่านเค้ก,ท่านอึ่งและหลวงตาอภิชาติ หลวงตาอภิชาติท่านเองก็อยู่ในกลุ่มนั้นแต่ด้วยท่านเองชราภาพ แล้วก็มีการเดินทางโดยทางเรือด้วย
ท่านจึงออกปากขอรบกวนกระผมให้ไปแทน งานนี้ได้ขอรับด้วยความยินดีมีอะไรช่วยเหลือกันได้ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งขอรับ
หลวงพี่ปาน เดิมท่านมีอาชีพเป็นคนหาปลาในเขื่อนเขาแหลม เป็น "มือฉมวก " ที่มีฝีไม้ลายมือฉมัง งานนี้บวชเรียนทดแทนคุณพ่อแม่ เว้นว่างจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ก็ขอโมทนากับท่านด้วย อย่างน้อยก็ร่วมเกือบสี่เดือนที่ท่านไม่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต บางครั้งเราแทบจะเลือกไม่ได้ว่าจะทำมาหากินอะไรเลี้ยงชีพมันเป็นไปตามสภาพ.........
ออกเดินทางจากวัดไม่นานก็ถึงจุดที่ต้องนั่งเรือไปแทน บรรยากาศของริมน้ำและวิถีชาวแพอันสงบ เดินด้วยเรือแค่สิบนาทีก็ถึง เรือนแพกลางน้ำบ้านของท่านปานแล้ว ญาติโยมก็รออยู่พร้อมอาหารที่เตรียมเอาไว้เรียบร้อย
บรรยากาศสงบผิวน้ำราบเรียบชวนให้น่าหลงใหล ไม่นานหลังจากฉันเพลเสร็จก็ได้ออกเดินทางไปชมบรรยากาศของภูมิประเทศสองฝั่งของแนวเขาที่ระดับน้ำในเขื่อนท่วมถึง
ท่านปาน : หากว่าเราแล่นเรือจากนี้ไปอีกประมาณเกือบสองชั่วโมงก็จะถึงสังขละบุรีแล้ว...หลวงพี่สนใจไหมละ
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ : ถ้ามีโอกาส เดี๋ยวผมต้องขอไปให้ได้ ทางเรือนะ ทางรถใครก็ไปถึงได้.....รอออกพรรษาก่อนดีกว่านะหลวงพี่งานนี้มีทริปแก้ตัวแน่นอนหลวงพี่ปาน
----------------------------------------------------------
"มองกล้องหน่อยสิ เจ้าหน้าย่น" (มันจะกระทบคุณยายที่นั่งข้างหลังหรือเปล่า....)