ดูแบบคำตอบเดียว
  #14  
เก่า 05-06-2019, 21:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า ไฟคือราคะ โทสะ และโมหะ ตอนนั้นผมคิดว่าพระองค์ท่านอุปมาเปรียบเทียบเฉย ๆ แต่หลังจากทำสมาธิและได้ทรงฌาน ๑ ครั้งแรกมันสุขมาก จิตใจเบามาก ตอนนั้นเลยเข้าใจว่า พระพุทธองค์ไม่ได้เปรียบเทียบแต่พูดจริง ๆ คำถามคือ พระอรหันต์ท่านตัดกิเลส ดับไฟกิเลสหมดแล้ว เวลาท่านไม่เข้าฌานสมาบัติ ท่านรู้สึกสุขมากกว่าการเข้าฌานหรือเปล่า หรือว่าท่านเข้าฌานเป็นปกติครับ ?
ตอบ : พระอรหันต์ต่อให้ไม่เข้าฌาน สภาพจิตก็เว้นจากการปรุงแต่งแล้ว ไฟรัก โลภ โกรธ หลง ดับหมดแล้ว แต่ด้วยความที่ท่านทรงความไม่ประมาทเป็นปกติ ก็ยังคงใช้อานาปานสติคือประกอบด้วยฌานเป็นปกติ พูดง่าย ๆ ก็คือ กำลังของฌานสามารถกดกิเลสเบื้องต้นได้อย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านก็เลยไม่ยอมเว้นจากฌาน เพราะว่าไม่ประมาท ถ้าถามว่าพระอรหันต์สุกขวิปัสสโกทรงฌานได้หรือ ? ขอยืนยันว่าพระอริยเจ้าทุกระดับทุกรูปแบบต้องทรงฌานได้ ไม่อย่างนั้นแล้วกำลังจะไม่พอในการตัดกิเลส แต่เป็นการทรงฌานที่บางทีท่านก็ไม่รู้ตัว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2019 เมื่อ 10:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา