อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วาโยรัตนะ
เรื่องราวที่จะเล่าสู่กันฟัง ให้พอเป็นประสบการณ์ ในการปฏิบัติธรรม อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน เขียนแบบไม่ได้ใช้สคริปต์,ไม่มีสแตนด์อิน,ไม่ได้ใช้สลิง,มีแต่คอยจะระวังว่า "จะสะกดคำผิดหรือไม่" ![onion_no.gif](images/smilies/onion_no.gif) ส่วน"พระพุทธศาสนสุภาษิต"ที่ยกมานั้น เป็นข้อสอบตอนสอบ "นักธรรมตรี" วิชาแต่งกระทู้ธรรม ประจำปี ๒๕๕๒ รู้สึกประทับใจ และ อยากประกาศแจ้งบอกให้ทุกท่านทราบว่า
"กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา"
กาลเวลา ย่อมกินสรรพสัตว์พร้อมทั้งตัวมันเอง
กาลเวลามันกินทั้งตัวกระผมเอง (โปรดจำเอาไว้ว่า ข้าพเจ้า"สึก"แล้ว) และ กินทุก ๆ ท่านในที่นี้ด้วย "เวลาคือชีวิต ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ก็จงปฏิบัติกันต่อไปจนตราบเข้าพระนิพพาน"
เพราะ คำว่า “ ไม่มีเวลา-เวลาไม่พอ” มักเป็นคำกล่าวอ้างของคนที่มีภาระกิจการงานหลากหลายสาขาอาชีพพูดกันบ่อย ๆ และคิดกล่าวว่า เวลาไม่พอกับงานที่ตนเองทำ” พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา แปลความหมายว่า กาลเวลาย่อมกลืนกินชีวิตของสรรพสัตว์โลกพร้อมด้วยตัวของมันเอง ไม่มีสัตว์ในโลกนี้แม้ผู้ใดเลยเรียกร้องเวลาที่หมดไปให้กลับคืนมาได้อีกทั้งที่เวลาจริง ๆ เลยมีเพียงแค่กลางวันและกลางคืนเท่านั้น
หวังอย่างยิ่งว่า เรื่องราวทั้งหมดนับจากนี้ไป คงจะเป็นประโยชน์ในลักษณะของการให้ใน "ธรรมทาน" แก่ท่านทั้งหลายไม่มากก็น้อย
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ (ป.ล. จาก ๑๙ มิ.ย. ถึง ๒๗ ต.ค. ๒๕๕๒) ![msn_smileys-15](images/smilies/onion_msn_smileys-15.gif)
|
ขอเชิญท่านพี่เล่าเรื่องเป็นแบบกลอนได้ไหมครับ
มีคนเรียกร้องมาก และจะได้อารมณ์กว่าเยอะ
แหะ ๆ ๆ
![onion_emoticons-18](images/smilies/onion_gifs_emoticons-18.gif)
![onion_emoticons-18](images/smilies/onion_gifs_emoticons-18.gif)