ถาม : ทำไมเข้าป่าไปธุดงค์แล้วหลวงพ่อถึงหวังแค่ตัวเมตตาในพรหมวิหาร ?
ตอบ : ตอนนั้นทำงานแล้วรู้ตัวว่าเมตตาพร่อง ไม่สามารถที่จะเมตตาได้ทั่วเสมอกัน คนไหนสวย คนไหนหล่อ คนไหนดีก็บริการดีหน่อย คนไหนหน้าตาห่วย ๆ ก็ตะคอกใส่เขา ตอนนั้นเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
ถาม : แล้วตอนเป็นพระ ?
ตอบ : เป็นพระแล้วก็ยังเป็น แต่ไม่ได้เป็นมากเหมือนตอนเป็นฆราวาส เพราะคอยสังเกตและแก้ไขตัวเองมาเรื่อย ตอนแรกก็คิดว่าอยู่ที่กำลังสมาธิตก ก็เลยเครียดเพราะงาน ดูไปดูมาแล้วไม่ใช่ ตัวเมตตาพร่องต่างหาก เพราะยังไปเลือกที่รักมักที่ชัง เลือกคนรวย คนจน คนสวย คนไม่สวย ก็เลยคิดว่าวิธีที่จะฝึกซ้อมเมตตาบารมี ที่ดีที่สุดก็ต้องออกป่า เพราะถ้าอยู่ในป่าเราไม่มีอะไรจะสู้ได้ นอกจากเมตตาบารมี ถ้าไม่ตั้งใจทำอาจจะตายฟรีก็ได้ ปรากฏว่าป่าที่ไปนั้นดุเกิน เมตตาบารมีที่ต้องการเลยไม่ได้ โดดข้ามไปเป็นสุดยอดของอุเบกขาเลย เหลือแต่ตายแน่..ตายแน่..คำเดียว
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก ณ บ้านอนุสาวรีย์
เดือนตุลาคม ๒๕๕๒
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2013 เมื่อ 10:42
|