คราวนี้ปีนั้นก็คิดว่าเคี่ยวเข็ญพระเขาหน่อย ทั้งกาแฟ ทั้งโอวัลติน ทั้งคอฟฟี่เมต ยัดเข้าห้องหมด ใส่กุญแจ อยากกินไปเปิดเอาเอง ห้ามใช้กุญแจ และห้ามงัดแงะด้วย อดหัวโตเลย ...(หัวเราะ)... ถ้าหากว่าไม่เคี่ยวเข็ญขนาดนั้น ก็ไม่ค่อยจะเอาดีกัน น่าสนุกไหม ? ไปฝึกที่โน่นจริง ๆ แล้วเหมือนกับไม่ได้ทำอะไร เพราะว่าปล่อยให้รับผิดชอบกันเอง ไปภาวนาเอา ไปทำเอา มีเทปมีหนังสือ ไปฟังเอา อ่านเอา ถ้าตรงไหนตีความไม่ถูกหรือทำต่อไม่ได้ มาถาม..จะบอกให้ เพราะหลวงพ่อวัดท่าซุงสอนมาแบบนี้ สอนแบบสอนผู้ใหญ่ ในเมื่อท่านสอนแบบสอนผู้ใหญ่ ให้รับผิดชอบเอาเอง อาตมาจึงถนัดแบบนี้ ถึงเวลาสอนลูกศิษย์ก็ต้องอย่างนั้น ถึงเวลาคุณก็ต้องไปอ่านตำราเอา ไปฟังเทปเอา ทำตรงไหนได้ก็ทำไป
เอาหน่อยไหม ? ทะ พะ มะ นะ ถอยหลัง แต่ว่าจริง ๆ แล้ว ตัวคาถาแค่ทำให้ใจเป็นสมาธิเท่านั้น กำลังใจของเราต้องใช้ความรู้สึกว่ากุญแจไม่ได้ล็อกอยู่ แบบเดียวกับที่เรามั่นใจว่าประตูนี้ไม่ได้ล็อกแน่ แล้วเราเปิดประตูเข้าไป ใจสบาย..ปล่อยวางอย่างไร ก็ปล่อยวางให้ได้อย่างนั้น แบบเดียวกันเลย ถ้าทำอย่างนั้นได้ แค่เอื้อมมือแตะ กุญแจก็หลุดเลย
ยังดีนะ..วันนั้นไปกันเป็นสิบ..สิบสามคน..ใช่ไหม ? หมอเพชรด้วย จัดแจงเปิดเลย ก็ท่านบอกแล้วว่า ท่านยกวัดให้เลย เราเป็นเจ้าของ เราก็เปิดได้ เล่นเอาทหารวิ่งตับแลบ คราวนี้พอบอกว่าเมื่อกี้เจอหลวงพ่อ หลวงพ่ออนุญาตแล้ว เขาก็เลยพลอยคิดว่า หลวงพ่อให้กุญแจมาเปิด
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๔
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2013 เมื่อ 03:24
|