สมัยที่อาตมาอยู่วัดท่าซุง นั่นคือเรื่องของบุคคลที่มีกำลังใจจะเข้าถึงพระนิพพานกันจริง ๆ ไปวัดไม่ต้องให้บอก ไม่ต้องให้สั่ง ไม่ต้องให้สอน รู้จักหางานทำเอง เมื่อได้งานแล้วก็รับผิดชอบสุดชีวิต ท้ายที่สุดก็จัดตั้งกันขึ้นมาเป็นคณะ อย่างเช่นว่า คณะถาวร คณะปากน้ำ คณะแม่ชม้อย คณะรวมใจภักดิ์ เป็นต้น รับผิดชอบงานต่าง ๆ กันไป
ไม่ว่าทางด้านโรงครัว ทางด้านการทำความสะอาด ทางด้านการดูแลห้องน้ำห้องท่า ทางด้านการจัดจราจร พวกเขาทำกันเอง พระเดชพระคุณหลวงพ่อไม่ต้องสั่ง ทุกคนรู้จักหางานทำเอง เมื่อได้งานที่เหมาะสมแล้วก็รับผิดชอบ ถ้ามีพรรคพวกมาร่วมงานก็เต็มอกเต็มใจรับเขาเอาไว้ แล้วก็บริหารจัดการกันเองไป
ในส่วนนี้ พอมาถึงวัดท่าขนุน อาตมาถึงได้บอกว่า ที่วัดอื่นเขาเห็นว่าพระวัดท่าขนุนมีประสิทธิภาพมาก อาตมาอยากจะบอกว่า ไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของพระวัดท่าซุงสมัยนั้น แล้วถามว่า ถ้าเป็นอย่างนั้น อาตมาออกจากวัดท่าซุงมาทำไม ? ก็เพราะว่าไม่มีอะไรให้ท้าทายแล้ว ตอนนั้นพระในวัด ๔๔ รูป อาตมาบอกซ้ายหัน ขวาหันนี่ หันตามมาเกิน ๓๐ รูป ถ้าอยู่ในลักษณะนั้นแล้ว ท่านคิดว่าท่านยังจะมีอะไรให้ท้าทายอีก ? คนอื่นเขายกเอาไว้ในตำแหน่งสูงสุดไปแล้ว ๔ พรรษาสุดท้าย พระเดชพระคุณหลวงพ่อเรียกใช้อยู่คนเดียว เพราะว่าใช้คนอื่นแล้วไม่ได้อย่างใจ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2019 เมื่อ 04:05
|