ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 20-10-2009, 09:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,696
ได้ให้อนุโมทนา: 152,041
ได้รับอนุโมทนา 4,418,011 ครั้ง ใน 34,286 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คนที่ทำในเรื่องของสมาธิภาวนา ไม่เจอประเภทใดก็ประเภทหนึ่งใน ๕ อย่างนี้ เขาเรียกกันว่า ปีติ ส่วนอารมณ์ใจอีกส่วนหนึ่งนั้น จะเป็นสิ่งที่มาก่อกวนเราอยู่เสมอ ได้แก่นิวรณ์ ๕ ประการ ซึ่งเป็นธรรมในการกั้นเราไม่ให้เข้าสู่ความดี สิ่งที่จะดีหรือชั่วก็ตามพระพุทธเจ้าท่านเรียก ธรรมทั้งหมด ก็คือ การปรากฏขึ้นตามธรรมดาตามธรรมชาติของมัน

นิวรณ์ที่กั้นเราจากความดีก็ประกอบด้วยกามฉันทะ ความพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์ เป็นต้น พยาบาท ความโกรธเกลียดอาฆาตแค้นผู้อื่นเขา คิดจะจองล้างจองผลาญ คิดจะทำร้ายเขา ถีนมิทธะ ความง่วงเหงาหาวนอน ชวนให้ขี้เกียจปฏิบัติ คิดว่าพรุ่งนี้ก่อนเถอะ คิดว่าคืนนี้ก่อนเถอะ อุทธัจจะกุกกุจจะ คือความฟุ้งซ่านไปในอารมณ์อื่น ๆ หงุดหงิดรำคาญในใจตนเอง จากแรงกระทบต่าง ๆ ท้ายสุดวิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในผลการปฏิบัติ ว่าจะมีขึ้นแก่เราจริงหรือไม่ อย่างไร

นิวรณ์ทั้ง ๕ นี้เป็นอุปสรรคกีดขวางกั้นไม่ให้เราก้าวเข้าสู่สมาธิที่สูงขึ้น ถ้าสมาธิไม่สูงพอ กำลังในการตัดกิเลสก็จะไม่มี ดังนั้นในการที่จะตัดกิเลสนั้นท่านทั้งหลายจะต้องทำสมาธิให้ทรงตัวให้ได้ ต่ำสุดต้องได้ปฐมฌานขึ้นไป เพราะว่าปฐมฌานนั้นมีกำลังในการตัดกิเลสบางตัวได้แล้ว โดยเฉพาะกิเลสใหญ่ในสังโยชน์ คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส

สักกายทิฏฐิคือเห็นว่าตัวเราเป็นของเรา แต่ถ้าอารมณ์มันทรงตัว มันนิ่งจริง ๆ พิจารณาภายในตามนัยแห่งวิปัสสนาญาณแล้ว ก็จะเห็นว่าสภาพร่างกายนี้จริง ๆ ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา มันเป็นเพียงธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ที่มารวมประชุมกันเพื่อให้เราได้อาศัยชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ถึงเวลาก็เสื่อมสลายตายพังไปตามสภาพของมัน ในเมื่อเป็นดังนั้น เรายังมีความปรารถนาในการเกิดอีกหรือไม่ แต่ละวันเมื่อภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัวแล้ว ให้ถอนกำลังใจออกมาเพื่อใช้ในการพิจารณาธรรมต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-10-2009 เมื่อ 20:28
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา