บุคคลที่จะเป็นเศรษฐี สมัยนั้นจะต้องมีทรัพย์สินอย่างน้อย ๘๐ โกฏิ ตีเสียว่า ๘๐๐ ล้านบาทของสมัยนี้ จะได้รับการแต่งตั้งจากพระเจ้าแผ่นดินให้เป็นเศรษฐี มีการมอบฉัตรเครื่องยศให้ ๓ ชั้น นายอันนภาระก็เลยกลายเป็นอนุเศรษฐี เมื่อข่าวไปถึงพระมหากษัตริย์ก็อยากได้บุญด้วย ก็ขอส่วนบุญจากนายอันนภาระ และมอบบ้านส่วยให้ ๓ แห่งเพื่อให้นายอันนภาระเก็บภาษีไว้ใช้เอง ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงให้ไปประมาณ ๓ หมู่บ้าน นายอันนภาระก็เลยกลายเป็นเศรษฐีขึ้นมา จากผลบุญที่ทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้า
แต่ว่าเป้าหมายตรงจุดนี้ที่กล่าวก็คือว่า เรื่องของบุญนั้นสามารถแบ่งปันกันได้ เพียงแต่ว่าต้องวางกำลังใจให้ถูกต้อง คือในขณะที่เราไม่มีโอกาสทำบุญ แล้วคนอื่นเขามีโอกาส เป็นเรื่องที่น่ายินดี น่าอนุโมทนา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-01-2019 เมื่อ 12:10
|