กล่าวถึงอาหารที่โยมเอามาถวาย "อาหารพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารของฝรั่งซึ่งอยู่เมืองหนาว อาหารจะมีพลังงานที่เรียกว่าแคลอรี่สูงมาก คราวนี้บ้านเรานิยมกินตามฝรั่ง เราจะเห็นว่ามีไอศกรีม มีพิซซ่า มีแฮมเบอร์เกอร์ มีไก่ทอด แล้วจะทำอย่างไร ? บ้านเราเมืองร้อน ไม่ได้เอาพลังงานไปสู้กับความหนาวก็เก็บหมด รับประกันว่าอ้วนทุกคน เพราะฉะนั้น...พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสสอนว่า เราต้องมี โภชเน มตฺตญฺญุตา รู้จักประมาณในการกิน ถ้าเอาอย่างพระสายวัดป่า "รู้สึกอิ่มก็ให้หยุด" ไม่ใช่กินจนอิ่มจริง ๆ
บรรดานักโภชนาการเขาทำวิจัยแล้วว่า ถ้าปล่อยให้มีอาการหิวอยู่บ้าง สุขภาพจะดีกว่า เพราะว่าร่างกายจะได้ปรับตัวเอง ถ้าเป็นไปตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้าก็คือว่า เมื่อร่างกายไม่หนักด้วยธาตุอาหาร การภาวนาก็จะดีขึ้น เพราะว่าเลือดลมปลอดโปร่ง
เขาทำวิจัยคนญี่ปุ่น พวกเราลองไปบ้านเขาดูสิ อาหารมาแต่ละอย่างนี่กินให้ตายก็ไม่อิ่ม มีนิดเดียว เขาไว้ให้มอง มองจนกระทั่งได้อารมณ์แล้วค่อยกิน ถึงเวลาต้องละเลียดช้า ๆ ฉะนั้น..คนไทยไปญี่ปุ่นนี่ไส้แขวนเลย สั่งอาหารทีหนึ่ง คนญี่ปุ่นบางทีไม่ทำให้ เพราะว่าสั่งเยอะ เราจะเห็นว่าอาหารของเขามีแค่ไม่กี่คำ
ตอนนี้สถิติคนญี่ปุ่นอายุยืนมากที่สุดในโลก เพราะว่ากินน้อย เขาถึงได้บอกว่า กินน้อยอยู่นาน กินมากตายเร็ว ร่างกายไม่มีโอกาสพักผ่อนเพื่อปรับธาตุตัวเอง ถึงเวลากินมากเกินต้องการ ร่างกายก็ต้องเสียพลังงานในการขับออกมา ส่วนที่ต้องทำงานหนักที่สุดก็คือตับกับไต คราวนี้พอทำงานมากเกินไปไม่ไหว ก็ตับพังบ้าง ไตพังบ้าง จึงมีรายการฟอกไตกันเป็นว่าเล่น"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2018 เมื่อ 19:31
|