"พูดง่าย ๆ ว่าไปฝากแล้วเอ็งต้องจบ ความรู้สึกแบบนี้ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกว่า เรื่องฤทธิ์เรื่องอภิญญาไม่ใช่เรื่องยาก ใครไปก็ฝึกได้ เป็นเรื่องสาธารณะ แต่สมัยนี้ของเราทำไมค่านิยมเปลี่ยนไป รู้สึกเป็นของยาก ? อาตมาก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนตอนไหน เพราะว่าหลังจากเรียนจบชั้นมัธยมแล้ว เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ หลวงปู่หลวงพ่อที่เคารพนับถือแต่ละท่านก็ค่อย ๆ ล่วงลับดับขันธ์ไปเรื่อย รุ่นใหม่ที่มาก็มีความสามารถไม่เท่าท่านเก่า ท้ายที่สุดก็เหมือนอย่างกับว่าค่อย ๆ เสื่อมลงไป
แบบเดียวกับที่มีญาติโยมคณะหนึ่งไปจากวัดพระธรรมกาย ไปอธิษฐานขอให้ถึงพระนิพพานในอนาคตกาล อาตมาได้ยินก็ถามว่า "แล้วทำไมไม่ขอในชาติปัจจุบันนี้ไปเลย ?" โยมคณะนั้นถามว่า "พระนิพพานไปชาตินี้ได้ด้วยหรือ ?" อาตมาถึงได้เข้าใจว่า ในเรื่องของการสร้างบารมีเป็นเรื่องที่ตำหนิกันไม่ได้ ถ้าใครสร้างบารมีมาเพียงพอ ก็จะรู้สึกว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องง่าย เป็นเรื่องปกติ ใคร ๆ เขาก็ทำกันได้ แต่ถ้าสร้างบารมีมาไม่พอ ก็จะกลายเป็นว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องยาก เกินความสามารถ เขาทำกันได้ด้วยหรือ ?
ดังนั้น ในส่วนของการสร้างบุญสร้างบารมี ต้องบอกว่ากำลังบารมีที่สร้างมานั่นแหละ ที่เป็นตัวแบ่งเอง ว่ากำลังบารมีของเราอยู่ในระดับไหน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-09-2018 เมื่อ 02:41
|