“เราตายได้ แต่พระพุทธศาสนาตายไม่ได้”
คนไทยไปเมืองนอก เพื่อไหว้ฝรั่ง
พระไปเมืองนอก เพื่อให้ฝรั่งไหว้
หลวงพ่อไปอเมริกาครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๕๑๕ ขณะเป็นเลขาธิการมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ และเจ้าคุณพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ไปด้วย เพื่อพบปะนักศึกษาในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ตามคำนิมนต์ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
สมัยนั้นคนไทยยังไม่มาก ส่วนใหญ่คนไทยไปอยู่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การเดินทางและการเป็นอยู่ในสมัยนั้นจึงลำบากมาก แต่ก็ต้องทนเพราะต้องการพบปะกับคนไทย เพื่อจะหาวิธีให้มีวัดเกิดขึ้นให้ได้ บางครั้งพักที่สถานฑูตไทย บางครั้งพักที่สำนักงาน ก.พ. บางครั้งก็พักตามมหาวิทยาลัย แต่โดยมากพักตามบ้านคน
ทีแรกไปอเมริกา เขาจัดให้นอนที่สถานทูตไทยด้วยกันทั้ง ๓ องค์ ภายหลังทั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กับเจ้าคุณประยุทธ์ต่างก็แยกกันไปนอนในที่ต่าง ๆ กัน เพื่อที่จะได้มีโอกาสพบคนมาก สมัยนั้น
ท่านทูตสุนทร หงส์ลดารมภ์ เป็นทูตอเมริกา ท่านบอกกับหลวงพ่อว่า
“คนไทยยังเชื่อพระให้บอกคนไทยที่มาอยู่ที่นี่ด้วยเถอะ ให้พากันกลับเมืองไทยทีเถอะ มาอยู่เป็นโรบินฮู้ดอย่างนี้อายเขา เสียชื่อเสียงประเทศชาติบ้านเมือง”
หลวงพ่อบอกท่านว่า “ฝรั่งมาอยู่เป็นโรบินฮู้ดในเมืองไทย ทำไมเราชื่นชมว่าเขาเป็นคนเก่งกล้า แต่พอคนไทยเป็นโรบินฮู้ดไปอยู่เมืองฝรั่งบ้าง กลับเห็นเป็นเรื่องน่าอาย
ความจริงเมืองไทยเราก็มีแต่โรบินฮู้ดทั้งนั้นแหละ และโรบินฮู้ดเหล่านั้นก็มีส่วนในการสร้างความมั่นคงมั่งคั่งให้กับเมืองไทย ที่เยาวราชมีแต่โรบินฮู้ดจากเมืองจีนทั้งนั้น มีแค่เสื่อผืนหมอนใบ มาเมืองไทย ก็ยังสร้างชาติไทยให้มีความเจริญรุ่งเรืองได้
อย่าถือว่าเป็นเรื่องน่าอายเลย ขอให้หาทางช่วยให้คนไทยเหล่านั้น ได้อยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมายเถอะ คนไทยเหล่านั้นล้วนแต่เก่งและมีความสามารถเท่านั้น หากไม่เก่ง ไม่กล้า ไม่มีความสามารถ เขามาได้ไม่ไกลถึงอเมริกาหรอก
การที่เขามาถึงอเมริกาได้ รัฐบาลไทยไม่ได้เสียเงินให้เขาสักบาทเดียว ไม่ได้ขาดทุนแต่ได้กำไร นั่นก็แสดงว่าเขามีความสามารถเป็นทุนอยู่แล้ว หากช่วยเขาให้อยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมายในอเมริกา เขาก็คงจะสร้างความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าให้แก่ชีวิตได้”