พระอาจารย์กล่าวว่า "พระมีเวลาฉันได้หน่อยเดียว ส่วนโยมได้ ๒๔ ชั่วโมง ถ้าพระไปอยู่ประเทศพม่าได้ถึงประมาณ ๕ โมงเย็น เพราะว่าบ้านเราตีความพระธรรมวินัยลักลั่น ฉันอาหารเวลาวิกาลเราไปตีความว่าหลังเที่ยง แต่เข้าบ้านในเวลาวิกาลเราไปตีความว่าพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว
ของพม่าเขาจะเวลาฉันอาหารหรือเข้าบ้าน เขาตีความว่าพระอาทิตย์ตกดินแล้วทั้งคู่ ฉะนั้น...ห้าโมงหรือห้าโมงครึ่งเขายังฉันกันเป็นปกติอยู่ แต่จะว่าไปแล้วถ้าไปประเทศพม่านี่ชาวบ้านทั่วไปเขากินวันละ ๒ มื้อ มื้อสาย ๆ ประมาณ ๐๘.๓๐ น. -๐๙.๐๐ น. ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารเบา อาจจะเป็นขนมจีนสักจานหนึ่ง ข้าวผัดสักจานหนึ่ง แล้วก็ไป ๑๖.๐๐ น. - ๑๗.๐๐ น. อีกมื้อหนึ่ง นั่นเป็นมื้อหลัก
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดหรอกว่าทำไมเขากินน้อยขนาดนั้น ดูไปดูมาแล้วถึงรู้ว่าไม่ค่อยจะมีกิน เพราะว่าบ้านเขาเศรษฐกิจไม่ดี อะไรก็หายาก ระยะหลังขนาดเปิดประเทศมากแล้วก็ยังคงลำบากอยู่ดี"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2018 เมื่อ 10:19
|