"จะเห็นว่าจริง ๆ แล้ว เรื่องของการรู้เห็นเป็นแค่ของแถมของการปฏิบัติเท่านั้น ถ้าสภาพจิตของเราสงบก็เหมือนกับน้ำนิ่ง น้ำนิ่งสามารถสะท้อนเงาสิ่งของรอบข้างได้ชัดเจนเหมือนของจริง
คราวนี้สภาพจิตของเราถ้านิ่งก็สามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ ต้องถือว่าเป็นของแถมในการปฏิบัติ แต่เท่าที่อาตมาพบมาก็คือ ทุกคนอยากได้ของแถม จนไม่เอาสินค้าหลัก ต้องการของแถมแต่ไม่เอาสินค้าหลักแปลว่าอะไร ? ของแถมอย่างไรเสียก็สู้สินค้าหลักไม่ได้ สินค้าหลักของเราคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่จะพาเราพ้นทุกข์ ของแถมบรรดาทิพจักขุญาณหรือญาณอื่น ๆ ที่ได้มานั้น ส่วนใหญ่แล้วพาให้เสียมากกว่าดี
อาตมาเองติดอยู่สามปีเต็ม ๆ คนโน้นถามเรื่องโน้นก็บอก คนนี้ถามเรื่องนี้ก็บอก พอเขาชม "อุ๊ย..เก่งจังเลย ทำไมรู้เห็นได้ชัดเจนขนาดนี้ ? บอกได้เหมือนกับตาเห็นเลย" ก็ตัวลอย อยากจะให้เขาชมอีก ก็วิ่งไปเป็นทาสให้เขาใช้ต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่งน่าจะถึงวาระว่า จะพ้นจากความโง่ตรงจุดนั้นเสียที
หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเทศน์วันนั้นเหมือนกับท่านตั้งใจให้ฟังอยู่คนเดียว ท่านบอกว่า "วิชชา ๒ อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ ใครทำได้ห่างจากนรกแค่นี้ แค่นิ้วขวาง ๆ อาตมาได้ยินแล้วเหงื่อแตกพลั่กเลย ระดับนั้นแล้วยังห่างนรกแค่นี้ แล้วของเราจะรอดไหม ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-05-2018 เมื่อ 14:26
|