พระอาจารย์กล่าวว่า "คำว่า นาก เขาใช้ ก.ไก่ นะจ๊ะ นาค ค.ควาย แปลว่างูใหญ่ก็ได้ แปลว่าผู้ประเสริฐก็ได้ แปลว่าช้างก็ได้ ดังนั้น...หลวงพ่อนาก ก.ไก่ สะกด นากตัวนี้คือโลหะที่ผสมจาก ทองคำ เงิน และ ทองแดง
สมัยอาตมายังเด็ก ๆ แถวบ้านเขานิยมทำขันข้าวใส่บาตรกันด้วยทองคำ ด้วยนาก ด้วยเงิน แล้วแต่ฐานะ คราวนี้ชาวบ้านก็จะเล็งว่า ถ้าใครใช้ขันนาก ขันเงิน บ้านไหนขันจะดำ บ้านไหนขันจะสะอาดเงางาม จะเป็นที่รู้กันว่าลูกสาวของบ้านนั้นขยันหรือขี้เกียจ
เพราะว่าต้องใช้น้ำส้มมะขามหมัก ขัดกันจนเบื่อ ถ้าขี้เกียจหน่อย การที่ออกซิเจนทำปฏิกิริยากับเนื้อโลหะ ก็จะทำให้นากหรือเงินหมอง แล้วก็ดำ ส่วนทองคำไม่เป็นไรหรอก ทองคำใช้ผ้าสะอาดเช็ดอย่างเดียวก็เงาวับแล้ว ตั้งแต่เกิดมาอาตมาก็ได้เห็นขันทองคำอยู่ครั้งเดียว หลังจากนั้นบ้านนั้นก็ไม่กล้าเอาออกมาใส่บาตรอีกเลย
มีความเชื่อที่ว่าพระอาทิตย์ใช้ขันทองคําใส่บาตร พระจันทร์ใช้ขันเงินใส่บาตร จึงมีรัศมีสว่างไสว ส่วนพี่กลางคือราหูตื่นสาย คว้าอะไรไม่ทัน เอากระบุงใส่ข้าวไปใส่บาตร เกิดมาจึงดำปี๋ไม่เหมือนชาวบ้านเขา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2018 เมื่อ 03:17
|