ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 24-12-2017, 12:18
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,599
ได้ให้อนุโมทนา: 219,376
ได้รับอนุโมทนา 766,676 ครั้ง ใน 37,529 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default

ถาม : ในหมู่พระภิกษุสงฆ์ผู้อาพาธเป็นโรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ ซึ่งพวกยาเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ที่รักษาโรคนี้ โดยปกติบุคคลทั่วไป แพทย์มักจะสั่งจ่ายยาจำนวน ๒ มื้อ คือ เช้าและเย็น หากแต่ในกรณีของพระภิกษุสงฆ์นั้น พระท่านมีวิธีการเลือกฉันยาอย่างไรในกรณีที่ฉันได้แค่มื้อเช้าและเพล ?
ตอบ : ฉันทุกมื้อนั่นแหละ ท่านไม่ได้บอกว่ายาก่อนหรือหลังอาหารนี่นา ถ้าเป็นยาหลังอาหาร พวกปานะต่าง ๆ ก็สามารถฉันรองท้องได้เป็นปกติอยู่แล้ว คุณจะไปเดือดร้อนอะไร ก็ฟาดน้ำส้มไปสักหนึ่งลิตร..!

ถาม : ช่วงมื้อเย็น พระท่านสามารถฉันอะไรได้บ้างที่เหมาะสมแก่สมณสารูป หากแต่ไม่ทำร้ายขันธ์ด้วยอาการของโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ ?
ตอบ : น้ำส้มก็ได้ ไม่หวานอยู่แล้ว ในพระบาลีท่านว่า สัปปิ เนยใส นวนีตัง เนยข้น มธุ น้ำผึ้ง เตลัง น้ำมัน ผาณิตัง น้ำอ้อยหรือว่าน้ำตาล ภายหลังก็อนุญาตอัฏฐปานะ ก็คือ น้ำที่คั้นจากผลไม้หรือเหง้าไม้ทั้งหมด ๘ อย่างด้วยกัน ภายหลังบัญญัติเพิ่มขึ้นว่า ผลไม้ที่โตไม่เกินกำปั้นหรือโตไม่เกินลูกมะตูมก็ทำน้ำปานะได้

ก็เลือกเอาสิว่าอะไรที่ไม่หวานมาก แต่จริง ๆ แล้วความหวานจากน้ำตาลผลไม้กลับดีต่อผู้เป็นเบาหวาน เพราะว่าร่างกายดึงไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องผลิตอินซูลินออกมาเพื่อย่อยสลายก่อน


ถาม : น้ำผึ้งจากเกสรดอกลำไย ถือว่าเป็นคิลานเภสัชตามพุทธบัญญัติหรือไม่ ?
ตอบ : จะเป็นน้ำผึ้งจากดอกอะไรก็ใช่ทั้งนั้นแหละ
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา