ตอนพ่อเสียนี่ในความรู้สึกของคนอื่นเหมือนกับว่าอาตมาอกตัญญู เพราะว่าไม่ร้องไห้ อาตมาจะบอกได้อย่างไรว่าดีใจเป็นบ้า ที่ท่านตายได้สักที ทรมานเหลือเกิน ๕ นาที ๑๐ นาทีท่านจะแข็งเกร็งไปทั้งตัว ถ้าไม่นวดให้คลายก็จะปวดร้องโอย ๆ ๆ คนที่อยู่กับท่านทั้งกลางวันกลางคืนอย่างอาตมาจะตายเอา คนอื่นเขาจะไปรู้อะไร
อาตมามีโอกาสดูแลพ่ออยู่ ๖ ปี ด้วยการลงความเห็นว่า "เอ็งเป็นลูกผู้ชายที่โตที่สุดที่ยังไม่ได้ทำงาน" พอไปดูแลแม่อยู่ ๓ ปี เขาลงความเห็นว่า "เอ็งเป็นลูกชายที่โตที่สุดที่ยังไม่ได้แต่งงาน" ตกลงว่าเป็นความผิดของตูทั้งนั้น..!
ฉะนั้น...ปัจจุบันนี้เวลาอาตมามีเด็ก ๆ อยู่ด้วย จะตามใจเยอะมาก เพราะว่าชีวิตช่วงวัยรุ่นของตัวเองไม่มี ต้องรับผิดชอบดูแลพ่อตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.๕ พอสิ้นท่านไปแล้วอยากจะเรียนต่อ แม่ก็ไม่มีปัญญาส่ง ต้องทำงานไปหาเงินเรียนไป ในเมื่อชีวิตวัยรุ่นไม่มี พอเห็นเด็กวัยรุ่นแล้ว ตอนเด็กเราอยากได้อย่างไร เขาก็คงอยากได้อย่างนั้น
เรื่องกินเรื่องเที่ยวนี่ไม่เคยมีเลย ได้ยินเสียงหนังประกาศโครม ๆ ที่วัด วัดกับบ้านก็มองหลังคากันเห็นแค่นั้น แต่ไปไม่ได้ คนอื่นเขาไปกันหมด แต่อาตมาต้องดูแลพ่อ ในเมื่อตัวเราไม่มีช่วงเที่ยวช่วงเล่น ถึงเวลาเขาเอาเด็ก ๆ มายกให้เป็นลูก ก็ให้ลูกเขามีแทนก็แล้วกัน ไม่ใช่ต้องไปล้างแค้นว่า "กูไม่มีมึงก็ต้องไม่มีด้วย..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2017 เมื่อ 19:28
|