"สมัยนั้นตำแหน่งพระบรมราชเทวีเป็นตำแหน่งมเหสีเอก ตอนหลังถึงจะขยับขยายกันใหม่ ของเราก็คล้าย ๆ ประเทศจีน ที่มีตั้งมเหสีพระชายาเป็นชั้น ๆ ลงไป ของเราก่อนหน้านี้ก็มีพระบรมราชเทวี มีพระมเหสี มีพระราชชายา พระวรชายา ไล่ลงไป สมัยหลังก็นิยมที่จะทำตามแบบตะวันตก ก็คือมีคนเดียว ในสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๖ ท่านก็เลยมีพระชายาหรือว่าพระมเหสีองค์เดียว เมื่อถึงเวลาไม่สามารถจะมีรัชทายาทให้ พระองค์ท่านก็หย่าแล้วจดทะเบียนใหม่
ฉะนั้น...เราจะเห็นว่าในหลวงรัชกาลที่ ๖ มีแค่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดาพระองค์เดียว แล้วก็ต้องบอกว่าเป็นลูกที่พ่อไม่ได้เห็นหน้า พอได้ยินว่ามีพระประสูติกาลแต่ไม่มีเสียงประโคม แปลว่าเป็นลูกผู้หญิง เป็นเจ้าฟ้าหญิง พระองค์ท่านก็ เออ...ลูกผู้หญิงก็ดีเหมือนกัน เสร็จแล้วก็สวรรคตไปเลย ไม่ได้เห็นหน้า ลูกไม่ได้เห็นหน้าพ่อ พ่อก็ไม่ได้เห็นหน้าลูก
พอมานิยมผัวเดียวเมียเดียวตามแบบของทางตะวันตก ก็ถัด ๆ มาเราก็จะเห็นว่าในหลวงรัชกาลที่ ๗ ที่ ๙ ก็อยู่ลักษณะนั้น ก็คือมีพระบรมราชินีพระองค์เดียว อย่างสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ แล้วก็มาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ตอนนี้ชาวบ้านก็คงใจจดใจจ่อว่าพระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๑๐ จะเป็นผู้ใด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
|