"ถ้าจะเอาให้มากกว่านั้นก็ต้องรักษาศีลทุกประการให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ก็ขึ้นมาชั้นมัธยมหน่อยหนึ่ง ถ้าต้องการยิ่งไปกว่านั้นก็คือต้องมีปัญญา รู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอน ถ้าอย่างนั้นถึงจะอยู่ในระดับปริญญา แต่จะจบปริญญาหรือไม่ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง
บุคคลที่จบปริญญาได้ ปริญญาตรีก็คือเป็นพระโสดาบัน ปริญญาตรีเกียรตินิยมก็พระสกทาคามี ปริญญาโทก็พระอนาคามี ถ้าหากว่าเป็นพระอรหันต์ถึงจะจบปริญญาเอก พวกเราอย่างเก่งก็ติดอยู่แค่ระดับอนุปริญญา...(หัวเราะ )...ไกลกว่านั้นไปไม่รอดหรอก เพราะสิ่งที่ทำยังไม่ได้ทำจริง ๆ ยังไม่สามารถที่จะทนลำบากได้จริง
หลายคนตั้งใจมาบวชปฏิบัติธรรม รักษาศีล ๘ ได้ไม่ถึงวันตบะแตกแล้ว กินตามความเคยชิน กินไปเกินครึ่งแล้วเพิ่งจะ “อุ๊ยตาย...เรารักษาศีล ๘ อยู่” ยังดีไม่กินหมดก่อนแล้วค่อยนึกได้ แต่คราวนี้กินไปครึ่งหนึ่งแล้วก็เสียดาย จึงกินให้หมดไปเลยก็แล้วกัน
กำลังใจของเรายังไม่แน่วแน่มั่นคงระดับตัวตายดีกว่าศีลขาด โอกาสที่จะเข้าถึงความดีก็มีน้อย ต้องฟังที่หลวงปู่หลวงพ่อสายวัดป่าท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า “ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นอยู่ฟากตาย” ก็คืออยู่ฝั่งเดียวกับความตาย ต้องแลกกันด้วยชีวิตจึงจะเข้าถึงธรรมได้
แต่เราลำบากนิดหนึ่งก็ถอย ลำบากหน่อยหนึ่งก็ถอย พอกิเลสคร่ำครวญว่าไม่ไหวแล้ว จะตายแล้ว เราก็เชื่อกิเลสทุกที แต่เราบอกว่าเราเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส เป็นลูกของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ทำตามคำสอนของท่าน พระพุทธเจ้าสอนอะไรเราฟังพักเดียว พอกิเลสบอกว่าไม่ไหวเราเชื่อกิเลสทุกที ในเมื่อเราไม่ได้เชื่อพระพุทธเจ้าแต่ไปเชื่อกิเลสก็ไม่ใช่ลูกพระ กลายเป็นลูกกิเลสไป"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-03-2019 เมื่อ 21:48
|