(สนทนากับพระเรื่องการกล่าวหาว่ามโนมยิทธิเป็นคำสอนนอกพระพุทธศาสนา) "คุณเห็นไหม ? ตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ผมไม่เคยสอนเลย บางคนฝึกมโนมยิทธิแล้วรู้ดีเกินไป เพียงแต่ว่าใครติดขัดมาถาม ผมยินดีบอกให้ ต้องบอกว่าวิชานี้ทำให้เรารู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่คนอื่นเขาจะไม่เชื่อ ในเมื่อผมไม่เคยสอนเลย จึงไม่มีผลกระทบจากการกล่าวหานั้น ๆ
เดี๋ยวนี้พวกที่เพี้ยนมีเยอะมาก แหกออกไปไกลความเป็นจริงเยอะ แล้วไม่มีใครคัดค้าน ถ้ามีรวมตัวกันลักษณะเป็นสาขา ถึงเวลามีการประชุม สามารถพูดในที่ประชุมได้ว่าสาขาไหนออกนอกลู่นอกทาง แต่คราวนี้ในเมื่อไม่มีการรวมตัวกัน ต่างคนต่างอยู่ ก็มีแต่จะกัดกร่อนทำลายชื่อเสียงของหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านลงไปเรื่อย ๆ
ของบางอย่างเหมือนกับธรรมะจัดสรร ถ้าอยู่ ๆ คุณเลิกสอนไปเฉย ๆ สามารถบอกได้ว่าถ้าสอนต่อไปเราจะลำบาก ก็เหลือแค่กิจกรรมสวดมนต์ไหว้พระตามหลักศาสนาพุทธ เมื่อถึงเวลาใครเกิดทำมาแล้วติดขัดตรงไหนก็แก้ปัญหาเฉพาะคน เราไม่ได้สอน แต่เหมือนกับการตอบปัญหาธรรม ถ้าคุณเห็นมาตั้งแต่ต้น ผมเอาแค่นี้ ผมไม่แตะเลยเรื่องของมโนมยิทธิ
ก่อนหน้าผมก็ไม่คิดว่าจะออกมาแรงขนาดนี้ ช่วงนั้นหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านให้ซักซ้อมเอาไว้ ต่อไปมีคนจะคุกคามศาสนาของเรามาก กล่าวหาว่าพวกเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเหลวไหล ถึงเวลาเราจะได้ชี้แจงแสดงเหตุแก้ไขคำว่าของเขาได้ ไม่ได้นึกว่าจะมาแรงถึงขนาดจะล้มศาสนากันเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-11-2017 เมื่อ 11:15
|