"สำหรับวัดท่าขนุน เราทอดกฐิน ๓ วัด ก็คือ วัดท่าขนุน วัดพุทธบริษัท และสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ก่อนหน้านี้เคยมีวัดถ้ำทะลุอีกแห่งหนึ่ง แต่หลังจากที่ท่านยกวัดถ้ำทะลุให้กับผู้อื่นไปแล้ว อาตมาก็ตัดขาดจากบัญชี ไม่ได้ทอดกฐินให้อีก
ส่วนปีนี้ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ วัดพุทธมณฑลอรัญญิกาวาส หรือ วัดทุ่งสมอ แต่เนื่องจากว่าหลวงพ่อมณฑลท่านยังอยู่ ดังนั้นในเรื่องกฐินอาตมาจะยังไม่ไปยุ่งด้วย เพราะว่าครูบาอาจารย์ระดับนั้น ถ้าเราไปหากฐินให้ท่าน ไม่รู้ว่าจะเป็นการดูถูกหรือหักหน้าท่านหรือเปล่า ?
ก็แปลว่าปีนี้เราทอดกฐิน ๓ วัด ก็คือวัดท่าขนุน วัดพุทธบริษัทและสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ปัจจัยที่ได้มาจะหาร ๓ เท่า ๆ กัน แต่ของวัดท่าขนุนจะได้มากกว่านิดหนึ่ง เนื่องจากว่าบางท่านเขียนระบุหน้าซองมาชัด ๆ ว่ากฐินวัดท่าขนุน ส่วนท่านที่บอกว่ากฐินวัดท่าขนุนแต่ไม่ได้ใส่ซองมา โดนหาร ๓ ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าสตางค์หน้าตาเหมือน ๆ กัน...แยกไม่ได้ ไม่ใช่โยมบอกว่าทอดกฐินวัดท่าขนุนแล้ว ธนบัตรใบนั้นจะเปล่งแสงไม่เหมือนใบอื่นจะได้แยกออก
เมื่อญาติโยมได้ทราบในเรื่องของกฐิน ตลอดกระทั่งแบบธรรมเนียมในการปวารณาเป็นเจ้าภาพกฐิน หรือว่าในการถวายกฐินแล้ว ต่อไปก็จะได้ปฏิบัติกันได้ถูกต้อง"
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
งานทอดกฐินสามัคคี ณ วัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2017 เมื่อ 10:44
|