พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยที่ยังอยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเตือนไว้นักหนาว่า ถ้าไปรับตำแหน่งเจ้าอาวาสที่ไหน ให้ทำการบวงสรวงบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางและครูบาอาจารย์ไว้เสมอ เพราะว่าเรื่องของเทวดา เรื่องของพรหม รับปากอะไรใครไว้ก็ให้เฉพาะคนนั้น ถ้าคนใหม่มาต้องทำความตกลงกันใหม่
ฉะนั้น...บางแห่งบางสถานที่เมื่อละเลยตรงจุดนี้ เกิดสิ่งที่ไม่ดีขึ้น เราก็จะได้เข้าใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะว่าเรื่องของพรหม เทวดา ท่านยอมรับกฎของกรรมมากกว่าเรา ถ้าเราไม่ได้ขอร้อง ท่านก็วางเฉย แต่ถ้าเราขอร้อง โดยความสัมพันธ์ โดยหน้าที่ หรือว่าโดยวาระบุญวาระกรรมที่ผูกพันกันมาแต่เดิม ท่านก็จะช่วยสงเคราะห์ผ่อนหนักเป็นเบา จากเบาเป็นหายให้ได้
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกมากต่อมากด้วยกัน ไม่ว่าจะในเทวตาสังยุตต์ พรหมสังยุตต์ มารสังยุตต์ กล่าวถึงเรื่องของพรหม เรื่องของเทวดา เรื่องของมาร หรือว่าในส่วนของวิมานวัตถุ เปตวัตถุ กล่าวถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้วทั้งที่เสวยสุขและเสวยทุกข์
แต่ว่าคนสมัยหลัง ๆ ความสามารถไม่ค่อยจะถึง สภาพจิตไม่มีความผ่องใสเพียงพอ ไม่สามารถรับรู้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ได้ ส่วนหนึ่งก็กล่าวหาว่าเป็นการหลอกลวงกัน โดยไม่ได้ดูว่า หลวงปู่หลวงพ่อหลายท่านอาศัยการสงเคราะห์ของพระ ของเทวดาอยู่เป็นปกติ ก็เลยกลายเป็นว่าคนยุคใหม่ไม่ค่อยเชื่อในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้
ก็ดีอยู่อย่างเพราะว่าพรหม เทวดา ไม่ค่อยเดือดร้อน ในเมื่อไม่เชื่อก็ไม่มาขอให้ช่วย แต่คราวนี้พรหม เทวดา ไม่เดือดร้อน ปัจจุบันเห็นว่าพญานาคเดือดร้อนมาก ใคร ๆ ก็ไปหาพ่อปู่ศรีสุทโธที่คำชะโนด...ใช่ไหม ? หมดท่าหมดทางก็ทำน้ำท่วมคำชะโนดไปเลย จะได้ไม่ต้องไปกันอีก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2017 เมื่อ 19:56
|