มองดูให้เห็นชัดว่าร่างกายที่เป็นเพียงธาตุสี่ บัดนี้ไม่มีอะไรเหลืออยู่ ธาตุลมขาดไปแล้ว ธาตุไฟดับไปแล้ว ธาตุน้ำทำลายธาตุดินไปแล้ว หมู่สัตว์ทั้งหลายมากัด มาแทะ มากินเป็นอาหาร จนกระทั่งท้ายสุดเหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น เมื่อผ่านการชะล้างของฝน การเผาของแดด การพัดโกรกของลม โครงกระดูกที่ยึดอยู่ด้วยเส้นเอ็นก็เกิดอาการเปื่อยสลาย หลุดกระจัดกระจายไป
กะโหลกศีรษะกลิ้งไปทางหนึ่ง กรามล่างหลุดไปทางหนึ่ง ฟันต่าง ๆ หลุดไปทางหนึ่ง กระดูกต้นคอที่เป็นข้อ ๆ ก็หลุดไปด้านหนึ่ง กระดูกไหปลาร้า กระดูกหัวไหล่ กระดูกต้นแขน กระดูกข้อศอก กระดูกปลายแขน กระดูกข้อมือ กระดูกฝ่ามือ กระดูกข้อมือ กระดูกนิ้วมือ ตลอดจนเล็บมือ หลุดกระจัดกระจายไป กระดูกสันหลังที่โยงกับกระดูกหน้าอกด้วยซี่โครงก็หลุดกลิ้งเป็นแว่น ๆ ไป
กระดูกบั้นเอวก็หลุดเป็นข้อ ๆ กระดูกเชิงกรานที่เรานั่ง ซึ่งติดกับกระดูกก้นกบ ก็หลุดกระจัดกระจายไป กระดูกต้นขา กระดูกหัวเข่า กระดูกหน้าแข้ง กระดูกข้อเท้า กระดูกส้นเท้า กระดูกฝ่าเท้า กระดูกนิ้วเท้า ตลอดจนเล็บเท้า หลุดกระจัดกระจายไป โดนฝนซัด โดนแดดเผา โดนลมโกรก จากใหม่ก็กลายเป็นเก่า จากเก่าก็ผุพัง เน่าเปื่อย จมดิน สลายไปไม่มีอะไรเหลืออยู่ จะเป็นดิน เป็นน้ำ เป็นลม เป็นไฟ ก็กลับคืนไปเป็นสมบัติของโลกตามเดิม
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-07-2017 เมื่อ 20:22
|